“เศรษฐา” หารือ บริษัท GAC Group ย้ำศักยภาพไทยสู่การเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของโลก เสนอบริษัทสนับสนุนผู้ประกอบการไทย จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) ในไทย รวมทั้ง Upskill แรงงานไทย
วันนี้ (18 ก.ค.) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้พบกับ นายเจิง ชิ่งหง (Mr. Zeng Qinghong) ประธานบริษัท GAC Group (Guangzhou Automobile Group Co., Ltd.) ในโอกาสเพื่อการหารือกระชับความร่วมมือด้านการลงทุนในประเทศไทย โดยเมื่อเสร็จสิ้นการหารือ นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญจากการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรี ยินดีกับการเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ของ GAC Aion ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (17 กรกฎาคม 2567) ณ จังหวัดระยอง และขอบคุณที่ตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นการตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในต่างประเทศของบริษัท โดยไทยมีความพร้อม ทั้งในด้านเครือข่าย Supply Chain ศักยภาพของบุคลากร ประสิทธิภาพของระบบนิเวศทางการผลิต รวมทั้งเชิญชวนให้บริษัทฯ จัดซื้อชิ้นส่วนต่าง ๆ จากในไทย เพื่อช่วยพัฒนา Supplier ไทย เพื่อยกระดับขีดความสามารถสู่ Global Supply Chain ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของโลก และขอให้พิจารณาจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา และสำนักงานภูมิภาค (Regional Heaquarters) ในไทยด้วย ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พร้อมเป็นสื่อกลางในการประสานงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
ประธานบริษัท GAC Group ยืนยันความพร้อมสำหรับการดำเนินงานในไทย สะท้อนมิตรภาพอันดีระหว่างไทย-จีน บริษัท เลือกประเทศไทยเป็นตลาดแรกที่เปิดตัวในการตั้งฐานการผลิตรถยนต์แห่งแรกในต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นฐานการผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และส่งออกทั่วโลก พร้อมขอบคุณการสนับสนุนจากหน่วยงานของไทยที่ช่วยอำนวยความสะดวกทางด้านการลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขณะนี้ได้เริ่มไลน์การผลิตอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว
โดยในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะยกระดับห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลพร้อมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีทางธุรกิจเพื่อให้ไทยเป็นฐานที่มั่นที่สำคัญ เพื่อให้นักลงทุนมีความสุข มีความสำเร็จ ได้รับความเป็นธรรมต่อการประกอบธุรกิจในประเทศไทย ขณะเดียวกัน ต้องคำนึงความต้องการของผู้บริโภคที่สอดคล้องกับสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันด้วย ซึ่งรัฐบาลพร้อมอำนวยความสะดวกทั้งด้านโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน สาธารณูปโภคท่าเรือ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพของพื้นที่ และบุคลากรไทยให้สามารถใช้เทคโนโลยีขั้นสูง Upskill & Reskill ทั้งในระดับวิศวกรรม และสายอาชีพ
โดยบริษัทยินดีที่จะส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) ในไทย พร้อมที่จะทำงานต่อเนื่องร่วมกับ BOI โดยคำนึงถึงความต้องการของ Supply Chain ในตลาด รวมทั้งมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบต่อผู้บริโภค