ข่าวปนคน คนปนข่าว
** "สมโภชน์ - EA" จบเห่!?
เมื่อพลังงานบริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์สมชื่อ "EA เอฟเฟกต์" จะพาย่อยยับเพียงใด เปิดทำการตลาดหุ้นวันนี้ก็น่าจะรู้กันแล้ว
ข่าวสารไปไว "สมโภชน์ อาหุนัย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กับ พวก "อมร ทรัพย์ทวีกุล"
และ "พรเลิศ เตชะรัตโนภาส" ถูกกล่าวโทษจาก ก.ล.ต. เมื่อวันศุกร์ (12ก.ค.) ว่าร่วมกันทุจริต ได้เงินจาก EA ไปกว่า 3,465 ล้านบาท ถือเป็นความฉาวโฉ่ เน่าเฟะครั้งใหญ่อีกครั้งในตลาดหุ้น
ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อทุกสำนัก และกูรูโซเชียลฯ ต่างรายงานวิเคราะห์เจาะลึกเงื่อนงำ ว่า เกิดอะไรขึ้นกับ EA และ สมโภชน์ !?
ว่าไปแล้ว ช่วงที่หุ้น EA ร่วงเอา ๆ ไม่มีทีท่าจะหยุด ทุกคนก็เอะใจกันบ้างแล้ว ... EA ต้องมีปัญหาการบริหารภายในแน่ๆ
แต่ก็ไม่คาดคิด “สมโภชน์ และ EA” จะเป็นไปถึงเพียงนี้
EA ได้เครดิตถูกจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A กวาดรางวัลสารพัดรางวัล บริษัทดีเด่น
ส่วนตัวของผู้ก่อตั้งและCEO "สมโภชน์" เคยได้รับรางวัลผู้บริหารสูงสุดดีเด่น หรือ CEO Awards จากตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 2020 และปี 2022
และ เมื่อปีที่ผ่านมานี้ ก็เพิ่งจะคว้ารางวัล นักบริหารดีเด่นแห่งปี 2023 และบุคคลคุณภาพแห่งปี 2023
มาปีนี้ ราคาหุ้นดาวโรจน์แห่งตลาดหุ้นที่เคยซื้อขายหลักร้อย มูลค่าตลาดเคยทะยานขึ้นไป 3.6 แสนล้าน จนทำให้ "สมโภชน์" ติดอันดับมหาเศรษฐีไทยอันดับที่ 6
ถูกเทขายทิ้งเรื่อยๆ เหลือหลักสิบในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทุกอย่างเหมือนภาพลวงตา!
แล้วมาเจอข้อหาอุฉกรรจ์ "โกง" บริษัท ของก.ล.ต. ซึ่งแน่นอนเป็นคดีอาญาร้ายแรง โกงผู้ถือหุ้น โกงนักลงทุน หรือฉ้อโกงประชาชน
อุปมา EA และ สมโภชน์ วันก่อนมีภาพดุจเป็นทอง พอฝีแตกออกมา กลับกลายเป็น ทองลอก ... ทองไม่แท้ !
ว่ากันว่า เบาะแสในการทุจริต จนนำมาสู่ ก.ล.ต.กล่าวโทษ มาจาก "บลังก้า ชูหลาน หวาง" อดีตภรรยา สมโภชน์ นั่นเอง
ดังที่ "บลังก้า ชูหลาน หวาง" โพสต์ลงเพจเฟซบุ๊ก ‘Blanca Huang’ ซึ่งเป็นเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอมาต่อเนื่อง
ก.ล.ต.เริ่มสอบสวนตั้งแต่ปี 2559 สมัย "รพี สุจริตกุล" เป็นเลขาธิการก.ล.ต. แต่ที่ล่าช้าจนล่วงเลยมาถึงเกือบๆ 8 ปี จึงกล่าวโทษได้ เพราะต้องรวบรวมหลักฐาน
จากหลักฐาน ก็ว่ากันว่า กลวิธีการทุจริตเหมือนกับกรณี ปิคนิค (PICNI) และสตาร์ค (STARK)
“สมโภชน์ อาหุนัย” วันนี้ วัย 57 ปี จบปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จากนั้น เริ่มต้นทำงาน ตำแหน่งพนักงานขายกับล็อกซเล่ย์ ก่อนที่จะไปศึกษาปริญญาโทต่อ ทางด้านการเงินจาก University of Pistburgh สหรัฐอเมริกา
หลังเรียนจบ “สมโภชน์” วนเวียนทำงานกับบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งในตำแหน่ง “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์” อาทิ บงล.บุคคลัภย์, บล.นวธนกิจ บล.หยวนต้า
หลังจากนั้นผันตัวเองมาเป็นนักลงทุนเล่นหุ้น สะสมทุนได้ระดับหนึ่ง จึงหักเหชีวิตมาทำธุรกิจพลังงานทดแทน
ปี 2549 “สมโภชน์” ก่อตั้ง บริษัท ซันเทคปาล์มออยล์ จำกัด ขึ้นมา ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 50 ล้านบาท ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด หรือ ที่รู้จักสั้นๆ ว่า EA
EA สยายปีก รุกพลังงานสะอาดที่เป็นเทรนด์ของโลก ณ ขณะนั้น เริ่มตั้งแต่ไบโอดีเซล พลังงานแสงอาทิตย์ ไปจนถึงพลังงานลม
EA เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ปี 2556 จากนั้น ย้ายเข้ามาซื้อขายใน SET ครั้งแรกเมื่อ 6 มกราคม ปี 2560
กระทั่งนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าพัฒนาสู่ยุค EV ทำให้ “สมโภชน์”และ EA ขยายธุรกิจ “แบตเตอรี่” และธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า
ตลอดที่ผ่านมานับสิบปี EA มีภาพเป็นบริษัทดาวรุ่ง ขณะที่ “สมโภชน์” ก็ร่ำรวยเป็นเศรษฐีรุ่นใหม่ไปเทียบชั้นเจ้าสัวรุ่นเก่าๆ จาก EA
การถูกกล่าวโทษจาก ก.ล.ต. และส่งเป็นคดีดำเนินการต่อ กงล้อกฎหมายหมุนแล้ว มีคำถามว่า “สมโภชน์ และ EA” จะเป็นเช่นไร?
แน่นอน เบื้องต้น จากก.ล.ต.กล่าวโทษ มีผลให้ สมโภชน์ เข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจ ในการเป็นกรรมการ และผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ และบริษัทจดทะเบียน จึงไม่สามารถเป็นกรรมการ และผู้บริหารของบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนนับตั้งแต่วันที่ถูกกล่าวโทษไปจนตลอดระยะเวลาที่ถูกกล่าวโทษดำเนินคดี
ขณะที่หากสมโภชน์และพวกต้องคดีทำผิดจริงก็จะเป็นคดีอาญาซึ่งมีโทษจำคุก 5-10 ปี รออยู่
“สมโภชน์” คงมีทางเลือกอยู่ทางเดียว คือสู้คดี
เจ้าตัวออกแถลงการณ์ร่วมกับ “อมร” รอง CEO ประกาศลาออกมั่นใจในความบริสุทธิ์ ย้ำว่า ทุกอย่างผ่านมติบอร์ด และจัดซื้ออุปกรณ์เป็นอำนาจผู้รับเหมา
การที่ก.ล.ต.กล่าวโทษ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย ยังไม่ถือว่า ทั้งตัวเขา และ อมร เป็นผู้กระทำผิด และพร้อมจะพิสูจน์ความจริง
ขณะที่ บริษัท EA จะเปิดตัวผู้บริหารชุดใหม่ พร้อมกับเชื่อว่าธุรกิจยังเดินต่อได้ และมีอนาคต
แต่ต้องไม่ลืมว่า “สมโภชน์ คือ EA”และ “EA คือ สมโภชน์” เมื่อชะตาพลิกผันด้วยข้อกล่าวหารุนแรงของก.ล.ต. ความเชื่อมั่นหดหาย สมโภชน์ และ EA จะจบเห่ หรือไม่!? จากนี้โปรดติดตาม
** “ทักษิณ” เหยียบถิ่นเซาะกราว เช็กเรตติ้ง
ช่วงนี้รัฐบาล โดย “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี กำลังรณรงค์ เชิญชวนให้ประชาชนออกมาร่วมบริจาคโลหิตเป็น 1 ใน 10 โครงการ ที่รัฐบาลจัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยตั้งเป้าไว้ที่ 10,000,000 ซีซี. ตลอดปีนี้
ขณะที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ก็มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ เป็นประธานอุปถัมภ์ โครงการบรรพชา-อุปสมบท ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ วัดสุวรรณวิจิตร ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.)
การจะไปจ.สุรินทร์ สนามบินที่ใกล้ที่สุด ก็คือสนามบินบุรีรัมย์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์
แม้จะไม่ได้ไปปฏิบัติภารกิจ หรือ ออกพบปะประชาชนชาวบุรีรัมย์โดยตรง เป็นเพียงแค่ทางผ่าน แต่ขึ้นชื่อว่า ไปบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นถิ่นของ “เนวิน ชิดชอบ” อดีตลูกน้องเก่า แต่ปัจจุบัน “มันจบแล้วครับนาย” จะให้มันดูเงียบเหงา ไม่มีคนมาต้อนรับเลย มันก็เสียยี่ห้อ “นายใหญ่”
จึงมีรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยมารอรับ อาทิ “สุทิน คลังแสง” รมว.กลาโหม, “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, “เกรียง กัลป์ตินันท์” รมช.มหาดไทย “พวงเพ็ชร์ ชุนละเอียด” อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งมวลชนคนเสื้อแดง อ.สตึก มารอให้การต้อนรับที่อาคารผู้โดยสารของสนามบิน มาผูกผ้าขาวม้าที่เอว มาขอถ่ายภาพกันเป็นที่คึกคัก ชูป้ายบอกว่าเป็นนายกฯในดวงใจ
แถมมีแกนนำเสื้อแดงคนหนึ่งได้มอบ “ตะขอช้าง” ที่ผ่านการการปลุกเสกมาแล้ว ให้กับ“ทักษิณ” บอกว่ามีพุทธคุณด้านอำนาจ บารมี สามารถควบคุมเหตุการณ์ต่างๆ ให้เป็นไปในทางที่ต้องการได้ ซึ่ง “ทักษิณ” ได้ควักกระเป๋าสตางค์ หยิบเงินให้เป็นการตอบแทน
ภาพของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ไปเหยียบสนามบินถิ่นเซาะกราวครั้งนี้ จึงไม่ถึงกับดูเงียบหงอย
จากนั้น “ทักษิณ” จึงเดินทางไปวัดสุวรรณวิจิตร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เพื่อเป็นประธานพิธีอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เมื่อเสร็จพิธีแล้ว ได้ไปรับประทานอาหารกลางวัน ที่โรงสี ส.ชัยเจริญ ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯในช่วงบ่าย
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ “ทักษิณ” เดินทางไปพื้นที่อีสานใต้ ซึ่งเป็นฐานเสียงหลักของพรรคภูมิใจไทย และเป็นพื้นที่ในความดูแลของ “ตระกูลชิดชอบ”
สำหรับ “ทักษิณ” แม้ระยะนี้จะออกมาปรากฏตัวแบบมีนัยทางการเมืองบ่อยครั้ง ทั้งในส่วนที่เป็นกิจกรรมของพรรค และกิจกรรมของรัฐบาล แต่ก็ทำอะไรได้ไม่เต็มที่นัก เนื่องจากยังมีสถานะเป็นนักโทษ เพียงแต่ตอนนี้ได้รับการพักโทษเท่านั้น
“สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงสถานภาพ ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ว่า ตอนนี้ยังเป็นนักโทษที่อยู่ระหว่างการถูกคุมความประพฤติ เป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดการพักโทษ ได้รับการปล่อยตัวในเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากนั้น ทางราชทัณฑ์จะออก “ใบบริสุทธิ์” ให้สำหรับคดีนี้
ส่วนคดี 112 ก็ยังเป็นบ่วงคล้องคอ “ทักษิณ” อยู่ต่อไป
