“รมว.ดีอี” หัวโต๊ะประชุมบอร์ด สกมช. คุมความปลอดภัยไซเบอร์ ยกระดับ “แอปดูดเงิน” เป็นภัยทางไซเบอร์ระดับร้ายแรง สั่งการล้างบาง “โจรออนไลน์” ตัดวงจรความเสียหายกว่า 2.6 พันล้าน
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 67 สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้จัดการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (กกม.) เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย ผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด, ผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้แทนปลัดกระทรวงดีอี, ผู้แทนเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ พล.อ.ต.อมร ชมเชย เลขาธิการ สกมช. เข้าร่วม
ในการประชุม ได้มุ่งเน้นการรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ในระดับร้ายแรง พร้อมวางแนวทางและยกระดับมาตรการแก้ไขปัญหาแอปดูดเงินให้เข้มงวดเพื่อสร้างความปลอดภัย ให้ประชาชน
โดยได้ยกกรณีที่มีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนโดยการหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันเพื่อขโมยเงิน หรือที่เรียกว่า แอปดูดเงิน (Mobile Banking Trojan) ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียเป็นเงินกว่า 2.6 พันล้านบาท (สถิติระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 65-31 พ.ค. 67) นับเป็นภัยไซเบอร์ระดับร้ายแรง แต่ปัจจุบันการป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีความล่าช้า
นายประเสริฐ เปิดเผยว่า ที่ประชุมจึงได้ประกาศยกระดับจัดให้ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เกิดจากแอปดูดเงิน เป็นภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับร้ายแรง และมีข้อสั่งการให้ สกมช. ร่วมกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider : ISP) รวมถึงสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดการแก้ไขปัญหาและรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ในระดับร้ายแรงอย่างทันท่วงที อาทิ ระงับการเชื่อมต่อไปยังแอปดูดเงินตัดวงจรการเชื่อมต่อระบบการควบคุมของมิจฉาชีพ และหยุดการโอนเงินของมิจฉาชีพผ่านระบบ Mobile Banking รวมทั้งการป้องกันประชาชนไม่ให้ถูกหลอกติดตั้งแอปดูดเงิน ก่อนเกิดความเสียหายแก่ประชาชน เป็นปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในการใช้บริการทางการเงินออนไลน์ให้ประชาชน.