อดีตแกนนำพิราบขาว ยื่น กกต.ตั้ง คกก.เฉพาะกิจสอบคุณสมบัติ ส.ว.ใหม่ ก่อนรับรอง หลังพบบางคนเป็นลูก ส.ว.เก่า บางคนมีคดีความ บางคนมีหุ้นธุรกิจสื่อ เตือนเสียหายอาจต้องรับผิดชอบถึงขั้นลาออกยกชุด
วันนี้ (8 ก.ค.) นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำพิราบขาว 2006 ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ทั้ง 200 คน และสำรอง 100 คน นายนพรุจ กล่าวว่า วันนี้ตนมาร้องให้ กกต. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเฉพาะกิจ หรือนิติกร ในการตรวจสอบผู้ที่ได้รับเลือกเป็น ส.ว.เพราะผู้ได้รับเลือกเป็น ส.ว.ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ และ กกต.ไม่ได้ตรวจสอบอย่างเพียงพอ จนมีการปล่อยผ่านเข้ามาจนถึงรอบสุดท้าย โดยตนได้นำ 2 ชื่อ ผู้ที่การรับเลือกเป็น ส.ว.จากกลุ่มสตรีที่เป็นบุตรของ ส.ว.ชุดปัจจุบัน มีอักษรย่อ อ.เป็นผู้ชาย และ ส.ว.ชุดปัจจุบันอักษรย่อ ท. เป็นผู้หญิง
และจากการตรวจสอบยังพบว่า มีบางคนที่ต้องคดีความ บางคนมีหุ้นส่วนในธุรกิจสื่อ คิดว่า ความผิดพลาดนี้ อาจจะไม่ได้เป็นความตั้งใจของผู้สมัครก็ได้ แต่อาจจะเข้าใจว่า เรื่องข้อห้ามเหล่านี้ไม่มีในข้อกำหนดเลยสมัครเข้ามา เมื่อสมัครมาแล้ว กกต.รับรองเป็นผู้สมัคร จึงปล่อยผ่านมาถึงรอบสุดท้าย ซึ่งกรณีที่ตนยื่นวันนี้มีเอกสาร หลักฐานชัดเจน เพราะไม่ใช่ว่าเราจะตรวจสอบแค่ ส.ว.ใหม่ แต่เรายังมีการตรวจสอบ ส.ว.เก่า ที่เชื่อมโยงกับ ส.ว.ใหม่ด้วย ปัญหาเหล่านี้มีความทับซ้อนกันมา จึงอยากให้ กกต. พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของ ส.ว.ใหม่ อย่างเร่งด่วน ไม่ใช่ปล่อยผ่านเพื่อมาปล่อยทีหลังเป็นความเสียหายอย่างมาก
นายนพรุจ กล่าวอีกว่า คณะตรวจสอบเฉพาะกิจสามารถขอความร่วมมือจากสภาทนายความมาช่วยตรวจสอบ แต่อย่าเพิ่งรับรอง ส.ว.ใหม่ เพราะถ้ารับรอง กกต.อาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด และอาจถึงขั้นต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกทั้งคณะ เพราะความเสียหายวันนี้ ส่อให้เห็นถึงปัญหาต่างๆ กกต.จึงต้องมีบทบาทในการตรวจสอบ และการรับรองที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ เราอยากเห็นองค์กรอิสระมีประสิทธิภาพ