ผู้สมัคร สว.ทวง กกต.ขอให้นับคะแนนใหม่ หลังพบโพยและเลือกเป็นชุด หาก กกต.เพิกเฉย ระวังเจอโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับสูงสุด 200,000 บาท แนะหากไม่มีเงินพอเช่าสถานที่อิมแพคฯ เพื่อนับคะแนนใหม่ ก็เปิดขายบัตรให้ผู้สมัครที่สนใจเข้าไปดู
วันนี้ (5 ก.ค.) พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้สมัคร สว.กลุ่ม 2 กลุ่มกฎหมายฯ และคณะ มายื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามคำร้อง หลังจากที่ได้ยื่นมาก่อนหน้านี้ในการคัดค้านการประกาศรับรองผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว. 200 คน และสำรอง 100 คน รวมถึงพบความผิดปกติในการลงคะแนนคล้ายมีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ และได้ยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติม เกี่ยวกับโพยลงคะแนนของผู้สมัคร สว. และขอให้ กกต.ได้เปิดหีบนับคะแนนใหม่อีกรอบ ซึ่งก่อนหน้านั้นได้เข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนของ กกต. เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าตามข้อเรียกร้อง วันนี้จึงมาติดทำความคืบหน้าอีกครั้ง
พล.ต.ท.คำรบ ระบุว่าข้อเรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ ไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่เลื่อนลอย แต่ตนและเพื่อน สว.มีหลักฐาน พบโพยการลงคะแนน มีการลงคะแนนเป็นชุด และได้ถ่ายภาพบัตรเลือก สว.ไว้เป็นหลักฐาน หลังได้รับโทรศัพท์คืนจากเจ้าหน้าที่ในช่วงท้ายของการนับคะแนน ทั้งนี้เห็นว่าตามมาตรา 25 และ 30 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ระบุว่าเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งในฐานะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศ จะต้องดำเนินการเลือกให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เมื่อผู้สมัครพบเหตุไม่ปกติได้แจ้งต่อ กกต. หาก กกต.ยังเพิกเฉย หรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำการอันใดเป็นการขัดขวางไม่เป็นไปตามกฎหมาย และหาก กกต.ไม่มีเงินเพียงพอในการเช่าสถานที่นับคะแนนใหม่โดยใช้อาคารอิมแพ็ค เมืองทองธานี ก็ขอให้เปิดขายบัตรให้ใบละ 100 ให้กับผู้สมัครที่สนใจ เชื่อว่าน่าจะได้เงินเพียงพอในการเช่าสถานที่
"หากผมยื่นไปแล้วท่านไม่ดำเนินการ อาจจะขัดต่อมาตรา 32 ซึ่งได้กำหนดโทษไว้ว่า หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี หลับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี ผมจึงมายื่นคำร้อง เพราะถือว่าทั้งผมและผู้สมัครทั้งหมดเป็นผู้เสียหาย "
นอกจากนี้ ยังเห็นด้วยกับที่ กกต.ชะลอการประกาศรับรองผลการเลือก สว.ออกไปก่อน ซึ่งหากการตรวจสอบพบว่าที่ สว.ทั้ง 200 คน มีคนใดทุจริตก็ไม่ต้องประกาศรับรอง และให้นำบัญชีสำรองในกลุ่มนั้นๆขึ้นมา หากบัญชีสำรองยังไม่พอก็ขอให้จัดการเลือก สว.ใหม่ในกลุ่มนั้นๆ และเห็นว่าจากปัญหาต่างๆ ในการเลือก สว.ไม่ควรให้การเลือก สว.เป็นโมฆะ
พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่าในช่วงบ่ายวันนี้ ในเวลา 14.00 น. ศาลฎีกาได้นัดฟังคำสั่งจากคำร้องเรื่องทุจริตการเลือก สว. โดยย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องการทุจริต แต่เป็นเรื่องของอนาคตประเทศ หากต้องการให้ประเทศมีผู้ที่นำพาประเทศไทยไปในทิศทางที่ถูกต้อง สมาชิกวุฒิสภาเป็นกุญแจดอกสำคัญ เพื่อนำพาประเทศฝ่าวิกฤตต่างๆ ไปได้