ร้องหยุดปล้นโรงไฟฟ้าปล้นค่าไฟฟ้าจากประชาชน “วัชระ” อ้างสหภาพยันข้อเท็จจริง ยุบโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ ส่ง “พีระพันธุ์” ไม่ใช่ “ข้อมูลบ้าๆ” ที่ รมว.พูดที่เขาหัวควาย
วันนี้ (4 ก.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ขอยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อมูลที่ยื่นเรื่องยุบโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี เป็นเรื่องจริง และขอให้แก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้ารายเดือนมีราคาแพงตามที่ยื่นหนังสือร้องเรียนไว้แล้ว ทั้งนี้ ขอให้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 56 และกฎหมายอื่นใดอย่างเคร่งครัด ยื่นต่อ นายพันศักดิ์ เจริญ ผู้อำนวยการส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
นายวัชระ กล่าวว่า ข้อมูลที่ยื่นเรื่องยุบโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี เป็นเรื่องจริงปรากฏหลักฐานข้อมูลต่างๆ ตามแถลงการณ์สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) เรื่อง ขอให้บรรจุโครงการโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานีกลับคืนไว้ในแผน PDP 2024 จำนวน 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 และเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567
ดังนั้น จึงไม่ใช่เป็นไปตามคำพูดของท่านที่ว่า “ไปเอาข้อมูลบ้าๆ มาจากไหน” แต่อย่างใด และข้าพเจ้าขอยืนยันข้อเท็จจริงในตามหนังสือที่เคยยื่นว่าสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในหนังสือของสหภาพแรงงานจึงไม่ใช่ข้อมูลบ้าๆ อย่างที่ท่านเข้าใจ
อนึ่ง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 56 รัฐต้องจัดหรือดำเนินการให้มีสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จําเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึงตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนดังนี้
1. กำลังผลิตไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 แต่ปัจจุบันเหลือเพียงร้อยละ 28 และหากถูกยุบเลิกโรงไฟฟ้าที่ จ.สุราษฎร์ธานี 1,400 เมกะวัตต์ กำลังการผลิตจะเหลือเพียงร้อยละ 17 ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ฉะนั้น จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และกระทรวงพลังงาน ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 56 และกฎหมายอื่นๆ อย่าได้ละเว้นเด็ดขาด
2. ค่ากระแสไฟฟ้าที่มีราคาแพงมหาศาลเกิดจากข้อสัญญาอันไม่เป็นธรรมระหว่างรัฐกับเอกชน มีการจ่ายให้กับเอกชนทั้งที่ไม่ได้ผลิตกระแสไฟฟ้าและอื่นๆ นำมาเก็บในค่า Ft. กับประชาชนทุกหลังคาเรือนทั่วประเทศ สร้างความเดือดร้อนให้คนยากจนทั้งประเทศ ต้องแบกรับภาระเกินสมควรกว่าเหตุอย่างมีนัยสำคัญ เท่ากับเป็นการปล้นประชาชนผ่านมิเตอร์ไฟฟ้าหน้าบ้านทุกหลังคาใช่หรือไม่ เป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 56 วรรคสาม จึงขอให้รัฐมนตรีและกระทรวงพลังงานปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไป หากผลเป็นประการใดโปรดแจ้งให้ข้าพเจ้าและพี่น้องประชาชนทราบภายใน 15 วันด้วย จักขอบคุณยิ่ง