“วัชระ” ร้องแทนชาวบ้านค่าไฟสุดโหด-คัดค้านยุบโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ เสี่ยงไฟดับกระทบคนใต้ 10 ล้านคน
จี้ ”พีระพันธ์” ต้องรับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลา 11.10 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาลนายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน เพื่อขอให้เร่งแก้ไขค่าไฟฟ้าแพงมหาโหดและคัดค้านการยุบเลิกแผนการสร้างโรงไฟฟ้าแก๊สธรรมชาติที่สุราษฎร์ธานีของกระทรวงพลังงาน
โดยนายวัชระเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนใน จ.สุราษฎร์ธานี ว่าขณะนี้ค่ากระแสไฟฟ้ามีราคาแพงมาก ทำให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนและบ่นกันทุกครัวเรือนว่า ค่าไฟฟ้ามีราคาแพงอย่างมหาศาล และแพงมหาโหดที่สุดในยุคที่ท่านเป็นรัฐมนตรีและกระทรวงพลังงานโดยนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน และนายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ได้มีการประชุมและยุบเลิกแผนการสร้างโรงไฟฟ้าที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าใช้แก๊สธรรมชาติ จำนวน 1,400 เมกะวัตต์ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ) ซึ่งผ่านการประชาพิจารณ์พี่น้องสุราษฎร์ธานีและความเห็นชอบจากทุกภาคส่วนแล้วไปสร้างที่จังหวัดอื่นในภาคกลาง เนื่องจากส่อว่ากำลังจะมีอิทธิพลอำนาจมืดโยกย้ายโรงไฟฟ้าดังกล่าว อันจะทำให้ความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าของ จ.สุราษฎร์ธานี และภาคใต้สูญเสียไปจะส่งผลกระทบต่อการจ่ายไฟฟ้าในจ.ภูเก็ต จ.พังงา และสถานที่ท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวนประชากร 10 ล้านคน
ดังนั้น จึงขอให้ท่านในฐานะผู้มีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลกระทรวงพลังงานซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย
(1) เร่งรัดการแก้ไขปัญหาไฟฟ้ามีราคาแพงมหาโหดอย่างเร็วที่สุด แพงมากที่สุดนับตั้งแต่มีรัฐบาลประเทศไทยในยุคที่นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี และท่านเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานซึ่งขัดแย้งกับสื่อโฆษณาชวนเชื่อของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนหลักในการจัดตั้งรัฐบาลที่ระบุว่า “เพื่อไทยเป็นรัฐบาล ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ลดราคาทันที”
(2) ขอคัดค้านการที่ยุบเลิกแผนการสร้างโรงไฟฟ้าแก๊สธรรมชาติ จำนวน 1,400 เมกะวัตต์ จากที่จะสร้างบริเวณเขาหัวควาย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ไปจังหวัดอื่นในภาคกลางโดยไม่ชอบธรรม และไม่เป็นธรรมอย่างยิ่งต่อพี่น้องชาวสุราษฎร์ธานี และชาวภาคใต้ทุกคน
นายวัชระ กล่าวอีกว่า การยุบแผนการสร้างโรงไฟฟ้า 1,400 เมกะวัตต์นี้ นำเสนอโดยสำนักนโยบายและแผนพลังงานกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของ นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน และกระทรวงพลังงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค โดยตรง ฉะนั้นจึงต้องรับผิดชอบโดยตรง