xs
xsm
sm
md
lg

“เชาว์” จี้เปิดข้อมูลอธิบดีศาลหื่น พิสูจน์ศาลตรวจสอบได้ เอาปลาเน่าออกด่วน ก่อนทำองค์กรมัวหมอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตรองโฆษก ปชป. บี้ ปธ.ศาลฎีกา-ก.ต. เปิดข้อมูล อธิบดีศาล หื่นลวนลาม จนท.บนรถไฟ พิสูจน์ ศาลเป็นองค์กรตรวจสอบได้ กลไกคัดกรองเข้มข้น เอาปลาเน่าออกด่วน ก่อนพาเหม็นเน่าสะเทือนศรัทธาองค์กร ทำศาลมัวหมอง


วันนี้ (4 ก.ค.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก “ทนายเชาว์ มีขวด” เรื่อง ความเป็นผู้พิพากษาต้องมีอยู่ตลอดเวลาทั้งในและนอกศาล มีเนื้อหาระบุว่า ตามที่มีข่าวปรากฏอ้างแหล่งข่าวระดับสูงในศาลยุติธรรม ว่า มีเรื่องร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์หญิงรายหนึ่ง ถูกผู้พิพากษาระดับสูง ซึ่งเป็นศาลใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ลวนลาม ในการจัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างเดินทางบนรถไฟตู้นอน เมื่อช่วงวันที่ 1 มิ.ย.เเละมีการร้องมายังเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และคณะกรรมการตุลาการ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมา เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ประธานศาลฎีกาได้เซ็นคำสั่งย้ายผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่ระดับอธิบดีศาลในศาลขนาดใหญ่แห่งหนึ่งไปช่วยราชการสำนักงานประธานศาลฎีกาเป็นการชั่วคราว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. 2567 และให้ นายจุมพล ชูวงษ์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ไปช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลดังกล่าว

นายเชาว์ ระบุด้วยว่า กรณีนี้ถือเป็นเรื่องร้ายแรงกระทบความเชื่อมั่นต่อองค์กรตุลาการ โดยเฉพาะผู้พิพากษาที่ถูกกล่าวอ้างตามที่เป็นข่าวเป็นถึงอธิบดีศาลใหญ่ แต่กลับประพฤติลวนลามเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ผู้ใต้ในบังคับบัญชาของตนเอง ซึ่งคดีน่าจะมีมูล เพราะนอกจากตัวผู้เสียหายแล้ว ยังมีพยานบุคคลผู้อยู่ในเหตุการณ์และพยานแวดล้อมอื่นที่แจ้งชัด มิฉะนั้น คงไม่มีใครกล้าที่จะไปใส่ความอธิบดีศาลใหญ่คนดังกล่าว และมีมูลเพียงพอถึงขั้นประธานศาลฎีกาลงนามสั่งย้ายไปช่วยราชการสำนักงานประธานศาลฎีกา เป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ ยังมีข่าววงในเกี่ยวกับความประพฤติของอธิบดีรายนี้ด้วยว่ามีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการสั่งประกันตัวและแทรกแซงคดี ซึ่งค้างพิจารณาที่คณะกรรมการธุรการ (ก.ต.) อีกหลายเรื่อง

ตามประมวลจริยธรรมเกี่ยวกับการดำรงตนและครอบครัว กำหนดไว้ชัดว่า นอกจากต้องเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดแล้ว ต้องอยูในกรอบของศีลธรรมและจริยธรรมอยู่ตลอดทั้งในและนอกศาล กรณีที่เกิดขึ้นไม่เพียงผิดศีลธรรม แต่ยังเป็นความผิดทางอาญาด้วย เรื่องนี้ถ้ามีมูลจริงถือเป็นความประพฤติที่ขัดต่อศีลธรรมและจริยธรรมของความเป็นผู้พิพากษาอย่างร้ายแรง เสื่อมเสีย เสื่อมเกียรติ ไม่สมควรให้อยู่ในระบบ แต่ต้องไล่ออกเพื่อขจัดคนชั่ว ไม่ให้มีมลทินมัวหมองต่อองค์กรศาลยุติธรรม

“ผมจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) และประธานศาลฎีกา รีบทำความจริงให้ปรากฏ โดยเฉพาะการเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นให้สาธารณชนรับทราบและตรวจสอบไปพร้อมกันด้วย ซึ่งจะได้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ มิใช่ปล่อยให้ซุบซิบกันในสื่อสังคมออนไลน์ โดยปราศจากข้อมูลที่ชัดเจน ยิ่งจะทำให้ศาลยุติธรรมเสียหายมากกว่า ใช้กรณีนี้เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าองค์กรตุลาการมีกลไกตรวจสอบกันเองเข้มข้น ตรวจสอบได้โดยการเปิดข้อมูลให้ประชาชนได้รู้ความจริง เร่งลงโทษผู้ทำผิด คัดปลาเน่าออกจากข้อง อย่าปล่อยให้เหม็นจนสะเทือนองค์กร” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น