เปิดกรอบงบพัฒนา ปี 69 ฉบับเบื้องต้น จ่อจัดสรรลง 18 กลุ่มฯ - 76 จังหวัด รวมกว่า 2.9 หมื่นล้าน เผย 18 กลุ่มจังหวัด จ่อได้งบฯเพิ่ม อื้อ! รวมกว่า 8.4 พันล้าน เฉพาะ “ภาคกลาง-ปริมณฑล” คาด ได้สูงสุด 622 ล้าน ส่วนรายจังหวัด คาด “โคราช” ได้งบสูงสุด 466 ล้าน ชลบุรี 426 ล้าน ด้าน “นครนายก” คาดได้น้อยสุด 167 ล้าน
วันนี้ (3 ก.ค.) มีรายงานจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ล่าสุด สภาพัฒน์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ.)
แจ้งเวียน 76 จังหวัด และ 18 กลุ่มจังหวัด ต่อการจัดทำกรอบการจัดสรรงบประมาณจังหวัด และกลุ่มจังหวัด (เบื้องต้น) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 แล้วเสร็จ วงเงินรวม 28,000,000,000 บาท
ภายหลังได้คำนวณ กรอบจัดสรรงบประมาณ เบื้องต้น เพื่อให้จังหวัด และกลุ่มจังหวัด จัดทำแผนเสนอกระทรวงมหาดไทย โดยคาดว่า จะเสนอ ครม.อนุมัติแผน ต้นปี 2568
โดยพบว่า กรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของ 18 กลุ่มจังหวัด และ 76 จังหวัด เป็นกรอบการจัดสรรงบพัฒนาจังหวัด รวมกับงบบริหารจัดการ
“พบว่า ตามกรอบที่สภาพัฒน์ ยกร่าง ตามมติ ก.น.บ. ให้กับ 18 กลุ่มจังหวัด และ 76 จังหวัด กรอบ “เบื้องต้น” วงเงิน 28,000,000,000 บาท สูงกว่า การเสนอขอรับการจัดสรร ปี 2568 ที่ขอไปวงเงินรวม 24,042,399,800 บาท”
ขณะที่กรอบ “เบื้องต้น” กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ตั้งไว้ 410,676,001 บาท กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ตั้งไว้ 425,393,721 บาท กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ตั้งไว้ 485,577,789 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ตั้งไว้ 395,579,281 บาท
กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 จะได้ 489,247,335 บาท กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 จะได้ 384,918,945 บาท กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง จะได้ 451,6409,262 บาท
กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 จะได้ 473,277,541 บาท กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 จะได้ 458,475,871 บาท
กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน จะได้ 548,389,448 บาท กลุ่มจังหวัดภาคกลาง-ปริมณฑล จะได้ 622,264,335 บาท กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 1 จะได้ 332,691,931 บาท กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 จะได้ 392,382,443 บาท
กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 1 จะได้ 672,183,992 บาท กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 จะได้ 445,688,192 บาท
กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย จะได้ 532,858,771 บาท กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝังอันดามัน จะได้ 499,181,956 บาท และกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน จะได้ 388,803,186 บาท
ขณะที่ ใน 76 จังหวัด จ.ชัยนาท จะได้ 225,215,931 บาท พระนครศรีอยุธยา 258,824,920 บาท ลพบุรี 223,867,535 บาท สระบุรี 226,366,751 บาท สิงห์บุรี 172,513,318 บาท อ่างทอง 213,981,130 บาท
นครปฐม 251,042,774 บาท นนทบุรี 261,728,490 บาท ปทุมธานี 275,357,796 บาท สมุทรปราการ 336,462,610 บาท
กาญจนบุรี 271,128,565 บาท ราชบุรี 251,031,200 บาท สุพรรณบุรี 278,035,258 บาท
ประจวบคีรีขันธ์ 207,536,977 บาท เพชรบุรี 206,139,125 บาท สมุทรสงคราม 172,841,294 บาท สมุทรสาคร 261,892,726 บาท
ชุมพร 207,399,452 บาท นครศรีธรรมราช 309,058,775 บาท พัทลุง 228,422,546 บาท สงขลา 312,085,720 บาท สุราษฎร์ธานี 263,602,984 บาท
กระบี่ 210,171,910 บาท ตรัง 240,671,910 บาท พังงา 189,429,275 บาท ภูเก็ต 180,596,659 บาท ระนอง 235,244,893 บาท สตูล 205,236,690 บาท
นราธิวาส 292,944,553 ปัตตานี 310,558,930 บาท ยะลา 271,137,728 บาท
ฉะเชิงเทรา 275,143,120 บาท ชลบุรี 429,300,736 บาท ระยอง 366,498,721 บาท
จันทบุรี 251,087,697 บาท ตราด 178,866,101 บาท นครนายก 167,653,392 บาท ปราจีนบุรี 233,843,822 บาท สระแก้ว 249,050,472 บาท
บึงกาฬ 190,038,162 บาท เลย 213,178,000 บาท หนองคาย 214,041,244 บาท หนองบัวลำภู 246,274,533 บาท อุดรธานี 317,591,607 บาท
นครพนม 266,332,059 บาท มุกดาหาร 196,785,067 บาท สกลนคร 271,469,593 บาท
กาฬสินธุ์ 232,934,300 บาท ขอนแก่น 333,380,827 บาท มหาสารคาม 224,847,675 บาท ร้อยเอ็ด 296,906,858 บาท
ชัยภูมิ 270,816,203 บาท นครราชสีมา 466,600,789 บาท บุรีรัมย์ 309,462,162 บาท สุรินทร์ 280,983,990 บาท
ยโสธร 211,661,557 บาท ศรีสะเกษ 350,016,122 บาท อำนาจเจริญ 207,371,004 บาท อุบลราชธานี 370,981,428 บาท
เชียงใหม่ 354,239,650 บาท แม่ฮ่องสอน 299,805,288 บาท ลำปาง 261,255,368 บาท ลำพูน 197,506,711 บาท
เชียงราย 316,743,255 บาท น่าน 228,558,738 บาท พะเยา 276,674,508 บาท แพร่ 230,057,646 บาท
ตาก 273,791,111 บาท พิษณุโลก 244,871,695 บาท เพชรบูรณ์ 254,946,128 บาท สุโขทัย 253,971,927 บาท อุตรดิตถ์ 232,066,236 บาท
กำแพงเพชร 240,496,199 บาท นครสวรรค์ 274,411,978 บาท พิจิตร 202,961,790 บาท และ อุทัยธานี 220,996,409 บาท
