xs
xsm
sm
md
lg

"พิธา" ป้อง 44 ส.ส.ก้าวไกลเข้าชื่อแก้ 112 เจตนาดีปชต.เชื่อสู้ได้ทั้ง 2 คดี ชี้อีกไกลฟ้องกกต.หากไม่ถูกยุบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"แดดดี้ส้ม" เชื่อ คดี 44 ส.ส.ก้าวไกล เข้าชื่อแก้ ม.112 มีเจตนาดีต่อระบอบประชาธิปไตย มั่นใจสู้ได้ทั้ง 2 คดี มองยังอีกไกล ’ก้าวไกล‘ จะฟ้อง กกต. หากรอดคดียุบพรรค

วันนี้ (30 มิ.ย. 67) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ใหัสัมภาษณ์กรณีที่หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าพรรคก้าวไกล ไม่ได้กระทำตามข้อกล่าวหาคดียุบพรรคก้าวไกลจะมีการฟ้องร้องกลับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือไม่ ว่า ตนคิดว่ายังคงไกลไปเยอะที่จะคิดเรื่องนั้น เรื่องที่เราอยากจะขอย้ำ และขอยืนยันว่า คำร้องของ กกต. นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีส่วนร่วม ไม่มีการถ่วงดุล และผิดขั้นตอนของ กกต.เอง ไม่ควรที่จะให้ตีความแบบ กกต.ว่าแยกมาตรา 92 กับ 93 กรณีนั้นทำให้เกิดสองมาตรฐาน บางพรรคถ้ากรณีที่ใช้ดุลยพินิจแล้วเกิดแยกขึ้นมา

นายพิธา ยืนยันว่า ไม่ได้กล่าวหา กกต.โดยตรง แต่โดยหลักการถ้ามีสองมาตรฐานแบบนี้ได้ ถ้า กกต. อยากจะยุบพรรคไหนเป็นพิเศษก็ส่งขึ้นทางด่วนใช้มาตรา 92 อย่างเดียว ถ้าพรรคไหนไม่อยากยุบเร็วอยากจะประวิงเวลาให้ก็ส่งไปทางธรรมดาใช้มาตรา 93 เข้ามาช่วย ตนมองว่ากกต.จะเลือกใช้แบบนี้ไม่ได้ทำให้เกิด 2 มาตรฐานในประเทศไทย และไม่สามารถจะบอกว่าคดีนั้นจบถือว่าเอาคดีนั้นมาผูกพันกับคดีนี้ถือว่าเป็นหลักฐานนั้นเชื่อได้ว่าอันดุลพินิจล้วนๆ และเรื่องที่กฎหมายรุนแรงขนาดนี้ไม่สามารถที่จะใช้ดุลยพินิจโดยที่ไม่มีการทวงดุลได้ ต้องโฟกัสที่ตรงนี้ก่อน

ส่วนกระบวนการชี้แจงอาจจะย้อนกลับไม่ได้แล้วพรรคก้าวไกลประเมินฉากทัศน์หลังจากนี้อย่างไร นายพิธา ระบุว่า ก็มีหลายฉากทัศน์ ฉากทัศน์หนึ่งที่วันนี้เรานำเสนอโดยการเทียบเคียงคดี 15/53 ของพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นฉากทัศน์หนึ่งที่ศาลได้ยกคำร้องในคดีนั้น เพราะว่านายทะเบียนพรรคไม่ได้เสนอความเห็นก่อนถือว่าทำข้ามตามขั้นตอน ก็มีการยกคำร้องนั้นและก็ไม่ได้พิจารณาเรื่องอื่นอีก อันนี้ก็เป็นฉากทัศน์นึง หรืออีกฉากทัศน์นึง เดินหน้าต่อแล้วให้มีการไต่สวนแต่ตนคิดว่าถ้าดูตามการเทียบคดีของพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปี 53 กับของเราก็จะเห็นว่ามันยิ่งต้องเป็นเช่นนั้นที่ต้องยกคำร้อง เพราะในคดีนั้นของ กกต. ตอนที่เป็นประธานแต่ตอนนี้เป็นนายทะเบียนพรรคเป็นเลขา กกต. ถ้าดูด้วยข้อกฎหมายตนมองว่าเป็นข้อผิดพลาดที่ทำให้เป็นผู้เสียหายทำให้ตนเป็นผู้เสียโอกาสในการชี้แจงในกระบวนการสำคัญที่กกต.ร่างขึ้นมาเองในปี 66 ทำให้เราต้องเปรียบเทียบกับคดีอื่นๆ อย่างไทยรักษาชาติ ที่เกิดขึ้นก่อน ปี 66 ยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย ตนพูดในเรื่องของกระบวนการไม่ใช่ในแง่ของผลลัพธ์

เมื่อถามว่ากรณีนี้ตัวพรรคก้าวไกลมั่นใจว่าจะไม่ถูกยุบพรรค แต่หากเทียบกับคดีที่มีการร้อง ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบจริยธรรม สส. ก้าวไกล 44 คน เข้าชื่อแก้ 112 ว่าคดีนี้อันไหนมีแนวโน้มว่าจะมีความเชื่อมั่นมากกว่ากัน นายพิธากล่าวว่า ตนเชื่อมั่นพอๆ กัน ยังเชื่อมั่นในตัวเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเจตนาของพวกเราที่มีเจตนาดีกับระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ว่าจะเป็นการกระทำใดที่ผ่านมาที่มีคำอธิบายได้ เราประกันตัวเพราะเป็นสิทธิที่เป็นหลักการสันนิษฐานว่าบริสุทธิ์ไว้ก่อน การที่เรามีผู้ต้องหามาตรา 112 เป็นสมาชิกพรรคหรือเป็นสส.พรรค ก็ต้องให้โอกาสเขาในการที่จะพิสูจน์ เพราะคดีก็ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด


กำลังโหลดความคิดเห็น