โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ มุ่งมั่นยกระดับการค้าระหว่างประเทศ เชื่อมั่น FTA อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ฉบับอัปเกรดจะเสริมสร้างการใช้ประโยชน์ทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิกได้อย่างเต็มที่
วันนี้ (16 มิ.ย.) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินหน้าส่งเสริมการค้าและการลงทุนกับนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง แสวงหาโอกาสและพันธมิตรทางการค้าทั้งเก่าและใหม่ พร้อมมุ่งยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (ASEAN-Australia-New Zealand Free Trade Agreement: AANZFTA) เพื่อให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น อำนวยความสะดวกทางด้านการค้าและพิธีการทางภาษีต่างๆ ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ พร้อมสนับสนุนการบังคับใช้ข้อตกลง FTA อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ฉบับเพิ่มเติมภายในปี 2567 เพื่อเสริมสร้างผลประโยชน์ด้านการค้าระหว่างประเทศและเศรษฐกิจไทย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 26-31 พฤษภาคม 2567 กระทรวงพาณิชย์ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมกับคณะกรรมาธิการร่วมความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ครั้งที่ 21 รวมถึงการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ นครโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งจากผลการเจรจาในครั้งนี้ได้มีการเร่งรัดการดำเนินการในหลากหลายด้าน ได้แก่ การเร่งรัดการปรับโอนตารางการลดภาษีสินค้าให้เป็นปัจจุบันมากขึ้น การพัฒนากฎระเบียบด้านการลงทุน การจัดทำคู่มือปฏิบัติสำหรับการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Rules of Origin) แบบเต็มส่วน การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพประเทศสมาชิกอาเซียนในการปฏิบัติตามพันธกรณี ความร่วมมือเพื่อพัฒนาศักยภาพธุรกิจMSMEs และการส่งเสริมบทบาทของสตรีในภาคธุรกิจ นอกจากนี้ ได้มีความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการต่างๆ รวมถึงเน้นย้ำการเจรจาในการดำเนินการบังคับใช้ FTA ฉบับเพิ่มเติมภายในปี 2567 ตามเป้าหมายที่สมาชิกเห็นชอบร่วมกัน สนับสนุนการขยายห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค และการอำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นระหว่างประเทศสมาชิก
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทยอันดับที่ 7 และ 31 ตามลำดับ โดยในช่วงเดือน มกราคม-เมษายน 2567 การค้าระหว่างไทยกับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ มีมูลค่า 7,105.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.74 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยไทยส่งออกสินค้าไปออสเตรเลียเป็นมูลค่า 4,174.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.59 สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ นอกจากนี้ ไทยส่งออกสินค้าไปนิวซีแลนด์เป็นมูลค่า 529.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.55 โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และน้ำตาลทราย ซึ่งจากการเจรจาในครั้งนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างประเทศสมาชิกตามข้อตกลง FTA ที่ได้มีการผลักดันตามเป้าหมายที่วางไว้
“นายกรัฐมนตรีมุ่งเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรกับนานาประเทศรักษาตลาดเดิม และพร้อมเปิดกว้างสำหรับตลาดใหม่ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า FTA คือ วาระสำคัญที่จะช่วยเพิ่ม Volume การค้าการลงทุนระหว่างประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งรัดกระบวนการเจรจาเพื่อเข้าถึงโอกาสทางการค้าการลงทุนให้มากขึ้น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าด้วยยุทธศาสตร์การทำงานของรัฐบาลจะพัฒนาการค้าของไทย และเพิ่มผลประโยชน์ร่วมกันในภูมิภาคได้มากขึ้น” นายชัย กล่าว