ทำไม “เต้” โดนคนเดียว “เรืองไกร” ร้อง ป.ป.ช.ตรวจสอบ ส.ส.รายอื่น ร่วมม็อบชูสามนิ้ว ผิดฐานล้มล้างปกครองด้วยหรือไม่

“เรืองไกร” ใช้กรณี “ส.ส.เต้” ร่วมชุมนุมชูสามนิ้วเมื่อปี 63 โดนกล่าวหาสนับสนุนล้มล้างการปกครอง ร้อง ป.ป.ช.ให้ ตรวจสอบเพิ่มว่ามี ส.ส.รายอื่น กระทำผิดด้วยหรือไม่ เผย หลังค้นหาผ่านกูเกิลมี สส.อีกหลายรายเข้าร่วม แต่ทำไม “เต้” โดนคนเดียว

วันนี้ (14 มิ.ย.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า จากข่าวที่ ป.ป.ช.มีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ อดีต ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ กรณีได้เข้าร่วมชุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 19-20 กันยายน 2563 และได้แสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้วอันเป็นการสนับสนุนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่มีวัตถุประสงค์ล้มล้างการปกครองฯ นั้น

นายเรืองไกร กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่า ทำไม ส.ส.เต้ จึงโดนคนเดียว ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ทำผิดรายอื่นได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วย ตนจึงไปตรวจหาพยานหลักฐานในสื่อต่างๆ จาก google จนพบข้อมูลบางส่วนที่น่าเชื่อมี ส.ส.รายอื่นๆ อีกหลายคน ที่ไปร่วมชุมนุม หรือสนับสนุนการชุมนุม หรือกระทำการชูสามนิ้วในลักษณะมีวัตถุประสงค์ล้มล้างการปกครองฯ ด้วย ดังนั้น ตนจึงเห็นว่า การที่ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา ส.ส.เต้ เพียงคนเดียว จึงไม่น่าจะครบถ้วน

นายเรืองไกร กล่าวว่า เพื่อไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติ ในวันนี้ ตนจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS พร้อมแนบสำเนาข่าวบางส่วน เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบเพิ่มเติมต่อไปโดยเร็ว ว่า มี ส.ส. รายอื่นๆ ที่กระทำการลักษณะเดียวกันกับ ส.ส.เต้ อีกกี่ราย และจะมีมูลความผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 วรรคหนึ่ง (1) หรือไม่ โดยมีความในหนังสือ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1. ตามหนังสือที่หนังสือที่ ปช 0019/0971 ลงวันที่ 5 มิ.ย. 2567 เรื่อง ขอเชิญให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา เรียน นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ โดยมีความในวรรคหนึ่งดังนี้

“ด้วยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวน กรณีกล่าวหาท่านว่ากระทำการอันเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีได้เข้าร่วมชุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 19-20 กันยายน 2563 และได้แสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้วอันเป็นการสนับสนุนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่มีวัตถุประสงค์ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

ข้อ 2. กรณีตามหนังสือที่หนังสือที่ ปช 0019/0971 ลงวันที่ 5 มิ.ย. 2567 เป็นการไต่สวนตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 วรรคหนึ่ง (1) ซึ่งเมื่อนำกรณีดังกล่าว มาแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากข่าวและคลิปที่ปรากฏโดยทั่วไป ทำให้พบพยานหลักฐานที่น่าเชื่อได้ว่า กรณีดังกล่าวยังมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอื่นๆ อีกหลายคนที่เข้าร่วมชุมนุมและได้แสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้วอันเป็นการสนับสนุนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่มีวัตถุประสงค์ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือมี ส.ส. รายอื่นๆ ที่กระทำการในลักษณะที่มีความเกี่ยวข้องกันตามกรณีที่ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหานายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ทั้งที่เกิดขึ้นก่อนและเกิดขึ้นหลังจากการกระทำของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรายอื่นๆ น่าจะมีเจตนาเพื่อร่วมกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำด้วย ดังนั้น ป.ป.ช. จึงควรตรวจสอบให้ครบถ้วนต่อไปโดยเร็วว่า มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกกี่คนที่ควรต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหาเช่นเดียวกับกรณีตามหนังสือที่ ปช 0019/0971 และ ป.ป.ช. ควรตรวจสอบด้วยว่า เหตุใด จึงมีการแจ้งข้อกล่าวไปนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เพียงคนเดียว ทั้งที่กรณีเกี่ยวกับการชุมนุมดังกล่าว ปรากฏพยานหลักฐานในสื่อต่างๆ โดยชัดเจนทั้งข่าวและคลิปว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกหลายคนที่กระทำการในลักษณะดังกล่าวด้วย
ข้อ 3. เพื่อประโยชน์แก่การตรวจสอบของ ป.ป.ช. ต่อไป จึงได้แนบสำเนาข่าวบางรายการมาที่ปรากฏภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำการในลักษณะเดียวกันกับกรณีของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่เกิดขึ้นช่วงวันที่ 19 -20 กันยายน 2563 รวมทั้งกรณีทั้งก่อนและหลังวันที่ 19-20 กันยายน 2563 มาให้เป็นตัวอย่างด้วยแล้ว

ข้อ 4. เพื่อให้การตรวจสอบ ส.ส. รายอื่นๆ สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้เร็ว ขอให้ ป.ป.ช. เรียกพยานหลักฐานจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการการชุมนุมดังกล่าว และเรียกสำเนาข่าวและคลิปจากสื่อต่างๆ มาเป็นพยานหลักฐานด้วย