’วิโรจน์‘ ยัน ผู้ช่วย สส.กรรโชกทรัพย์เป็นแค่อาสา ป้อง ‘เชตวัน’ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ปัดก้าวไกลคัดคนร่วมงานไม่ดีพอ แต่ต้องให้อำนาจ สส. เลือกผู้ช่วยด้วยตนเอง ด้าน “เชตวัน” ปิดปากเงียบอ้างเรื่องจบแล้วหลังทีมงานคนดังกล่าวโดนจับ
วันนี้(13 มิ.ย.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสข่าวมี ผู้ช่วย สส. ของนายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล ถูกจับกุมในข้อหากรรโชกทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยว ทางพรรคมีการตรวจสอบอะไรหรือไม่ ว่า เบื้องต้นบุคคลดังกล่าวไม่ใช่ผู้ช่วย สส. แต่เป็นทีมอาสาของนายเชตวัน ยืนยันว่าพฤติกรรมดังกล่าวนายเชตวันไม่มีส่วนร่วมด้วย เป็นพฤติกรรมของบุคคลนั้นๆ ซึ่งพรรคก็ต้องมีการสืบสวนสอบสวน ถ้าเกิดทำจริง ก็ต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกภาพของพรรคทุกตำแหน่งและหน้าที่
ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหรือไม่นั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ยังไม่ต้องตั้งคณะกรรมการ เพราะกรรมการบริหารพรรคและกรรมการวินัยของพรรค อาจตรวจสอบได้รวดเร็ว ไม่ต้องตั้งคณะกรรมการให้ล่าช้า
สำหรับกรณีของนายสุเทพ อู่อ้น สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง กมธ.ฯ มีการลงมติว่า จะมีการตรวจสอบจริยธรรม กรณีมีคณะทำงานแอบอ้างเป็น กมธ.ฯ ไปลงพื้นที่เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ที่จังหวัดปราจีนบุรีนั้น ทางพรรคมีการตรวจสอบหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่คณะกรรมการวินัยพรรค ในการสืบหาข้อเท็จจริง หากเป็นความจริงขึ้นมา เราไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้อง
ส่วนที่มีการร้องเรียนกรณีผู้ช่วย สส.เข้ามามาก ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีการรอเปิดอีกหนึ่งเคส มองว่าเป็นเพราะพรรคไม่ได้คัดคนเข้ามาดีหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ถ้าเราพูดตรงๆ คือ ถ้าพรรคจะต้องไปคัดก็จะกลายเป็นผู้ช่วยของพรรค แต่พอเป็นผู้ช่วย สส. เราก็ต้องให้อำนาจและให้ความไว้วางใจกับ สส.แต่ละคน ในการเลือกผู้ช่วยที่เหมาะกับตนเอง เรื่องนี้มีการกำชับว่า การคัดเลือกผู้ช่วย สส. ควรจะเป็นอย่างไร ถ้าจะให้พรรคเข้าไปแทรกแซงคัดคนให้ ก็จะกลายเป็นแทรกแซงอำนาจของ สส. เราต้องหาจุดพอดี ที่มีความรัดกุม เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบลำดับแรกคือ ตัว สส.เอง แล้วต่อมาก็กระทบกับพรรค
เมื่อถามถึงกรณีที่นายเชตวันถูกสังคมตั้งคำถามถึงการสื่อสารซึ่งมีเพียงแค่การโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก แต่ไม่มีการชี้แจง นายวิโรจน์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างที่นายนายเชตวันสืบสวนข้อเท็จจริง ไม่ใช่ตอบไว ต้องดูว่าข้อเท็จจริงคืออะไร มีความเสียหายเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ทำมากี่รายแล้ว ทางพฤติกรรมเป็นอย่างไร เบื้องต้นต้องให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ไม่ใช่ว่าพอสังคมออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ก็ด่าเสริมด่าซ้ำทันที ก็คงไม่ใช่
“ยืนยันว่ากระบวนการตรวจสอบไม่ล่าช้า ตรงไปตรงมาแน่นอน หากพบว่าจริง ก็จัดการ เข้าใจว่านายเชตวันน่าจะจัดการด้วยตัวเองไปแล้วด้วยซ้ำ ส่วนพรรคก็ตรวจสอบต่อว่า มีความเกี่ยวพันโยงใยกับนายเชตวันหรือไม่”
ด้านนายเชตวัน ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด โดยทีมงานแจ้งว่า ประเด็นเรื่องนี้จบไปแล้ว เนื่องจากเป็นคดีอาญา และทีมงานคนดังกล่าวได้ถูกจับกุมไปแล้ว ดังนั้นจึงยังไม่มีความเห็นในเรื่องนี้