xs
xsm
sm
md
lg

ก้าวไกล“งูเห่าสีส้ม” ย้ายรังอีกรอบ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชัยธวัช ตุลาธน - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เมืองไทย 360 องศา

จับสัญญาณความเคลื่อนไหวเห็นได้ชัดเจนก็คือ การที่มีกลุ่ม ส.ส.ของพรรคก้าวไกลบางส่วน กำลังขยับตัว “ย้ายสังกัด” เข้าพรรคการเมืองอื่น หรือที่เรียกว่า “งูเห่า” หลังจากมองเห็นแล้วว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการยุบพรรคในอีกไม่นานนี้ โดยมีทั้งการทาบเข้าพรรค จากหลายพรรคการเมือง รวมไปถึงตัวส.ส.เอง ที่กำลังมองหาบ้านใหม่ ซึ่งคนที่ออกมาแสดงท่าทียอมรับในเรื่องดังกล่าวก็คือ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล นั่นเอง

ก่อนหน้านี้ นายชัยธวัช กล่าวถึงเรื่องการตรวจสอบ สส.งูเห่าในพรรคว่า มีความพยายามที่จะติดต่อ สส.พรรคก้าวไกล ก็ยอมรับว่ามีจริง และไม่ใช่เรื่องใหม่ เราก็ทราบข้อมูลมาโดยตลอด ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน แต่จนถึงตอนนี้ ก็คิดว่า เราไม่ได้กังวลอะไร เชื่อมั่น และมั่นคงในทางอุดมการณ์ รวมถึงซื่อตรงต่อความไว้วางใจของประชาชนที่มอบให้ สส.พรรคก้าวไกล เหนือสิ่งอื่นใด ประเด็นสำคัญกว่าคือ เรายังมีโอกาสชนะในการต่อสู้คดียุบพรรค

เมื่อถามว่าภาพใหญ่ตอนนี้ เหมือนมีเกมที่ทำให้พรรคก้าวไกลถูกยุบ แล้วจะได้ดูด สส.งูเห่าไป เพื่อไปโหวตนายกรัฐมนตรีขั้วตรงข้าม โดยการล้มนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นายชัยธวัช ระบุว่า เรื่องนี้อาจจะต้องแยกออกมาจากเรื่องการยุบพรรค ซึ่งเป็นการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ทางการเมือง ก็ว่ากันไป แต่สถานการณ์นั้นยังมาไม่ถึง

เมื่อถามว่า ช่วงที่พรรคก้าวไกลออกมาพูดเรื่องงูเห่า เป็นช่วงเดียวกับที่นายทักษิณ ชินวัตร ออกมาพูดถึงคนในบ้านป่าพอดี มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ที่ สส.พรรคก้าวไกล จะถูกดูดจากคนในบ้านป่า นายชัยธวัช กล่าวว่า น่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน น่าจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับนายทักษิณ หรือพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะ เพราะข้อมูลที่มี คือความพยายามดูด สส. พรรคก้าวไกล มาจากหลายพรรค ซึ่งเราให้เกียรติซึ่งกันและกัน

ถามย้ำว่า สส.พรรคก้าวไกล อาจจะถูกดูดไปโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอีกรอบ นายชัยธวัช ระบุว่า วิธีการนี้ไม่น่าจะสำเร็จ เหนือสิ่งอื่นใด คิดว่าพี่น้องประชาชนในปัจจุบันไม่ได้ยอมรับวิธีการทำงานการเมืองแบบนี้อีกแล้ว ต่อให้มีการดูดสส. คิดว่าก็ยิ่งทำให้ไม่ได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชนในระยะยาว
ถามอีกว่ามีรายงาน สส. ที่ไปได้ค่ารถกลับมาด้วย นายชัยธวัช ตอบทันทีว่า ไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า รู้ตัวใช่หรือไม่ว่ามีใครบ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า สส. ก็มาเล่าให้ฟังตลอด ว่ามีใคร จากไหน พรรคไหน คนไหนบ้าง ที่มาติดต่อ มีข้อเสนออะไร เราก็ติดตามตลอด

“อย่าเพิ่งไปสรุปแบบนั้น ผมแค่บอกว่าในความเป็นจริงมีความพยายามเยอะ จากหลายพรรคการเมืองด้วย รวมถึงแม้กระทั่งจะเสนอให้ไปย้ายเข้าอีกพรรคการเมืองใหม่ ก็มีหลายโมเดล หลายกลุ่ม แต่ว่าอย่าเพิ่งไปสรุปว่าใครเห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้าส่วนบุคคล เราก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน” นายชัยธวัช กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีวิธีการตอบโต้อย่างไร เพราะอาจทำให้ลูกพรรคใจอ่อน นายชัยธวัช ร้องโอ้ ไม่มีความจำเป็น เพราะสุดท้ายพรรคการเมืองไหนที่ทำงานการเมืองแบบนี้ ก็จะไม่ได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชน

ก็ถือว่าชัดเจนว่ามีทั้งการทาบทาม เข้าพรรคใหม่ และการเจรจาต่อรอง เพื่อหาสังกัดใหม่ของ ส.ส.ในพรรคก้าวไกลเอง แต่เชื่อว่าเป็นลักษณะ “รอจังหวะ” รอผลการพิจารณาชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าผลออกมาอย่างไร “ยุบ” หรือ “ไม่ยุบ” ซึ่งหากพิจารณาจากแนวโน้มแล้ว มีความเป็นไปได้ในแบบแรกมากกว่าอย่างหลัง

นี่แหละคือเห็นเหตุผลว่า ทำไมถึงมีการเคลื่อนไหว “ย้ายพรรค” โดยทางกฎหมายแล้ว หลังจากมีการยุบพรรคแล้ว ส.ส.ที่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคที่ไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์การเมือง ก็จะต้องหาสังกัดพรรคใหม่ภายใน 30 วัน เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคอนาคตใหม่ ก่อนหน้านี้

สำหรับพรรคที่มีรายงาน มีทั้ง เพื่อไทย ภูมิใจไทย และที่มาแรงก็คือ พรรคพลังประชารัฐ ที่เชื่อว่ามีการเปิดเจรจากันอย่างจริงจัง เพราะจะมีผลต่อการโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หากกรณี “ถอดถอน” นายเศรษฐา ทวีสิน มีผลออกมาในทางลบ และบังเอิญว่าสอดคล้องกับคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร ที่เคยออกมาปูดเรื่องนี้ มี “คนในบ้านป่า” เข้ามาวุ่นวาย

ขณะเดียวกัน หากพิจารณาถึง “คนในบ้านป่า” น่าจะเป็น บ้านป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ซึ่งหมายถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอีกด้วย ที่ผ่านมาก็มีข่าวความเคลื่อนไหวสำหรับการชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีตลอดเวลา ทุกอย่างจึงเข้าเค้า หากมีการเจรจากับ “งูเห่า” จากพรรคก้าวไกล ที่กำลังลุ้น ว่าจะถูกยุบพรรคหรือไม่ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

สำหรับความคืบหน้าคดียุบพรรคก้าวไกล ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญ มีมติให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะผู้ร้อง ให้ยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมภายใน วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน จากนั้นในวันที่ 18 มิถุนายน ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาต่อไป ซึ่งมีโอกาสที่จะให้มีการไต่สวนคดี ซึ่งจะเป็นการยืดเวลาออกไปได้อีกระยะหนึ่ง

โดยที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีการอภิปรายในคำร้องที่กกต. โดยนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของบุคคลผู้เป็นคณะกรรมการบริหารพรรค และห้ามมิให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรคและถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ภายในกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง ตาม พ.ร.ป ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 วรรคสอง และมาตรา 94 วรรคสอง เนื่องจากมีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 โดยศาลฯ มีคำสั่งให้ กกต.ในฐานะผู้ร้อง ยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐาน ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันจันทร์ที่ 17 มิ.ย. 67 และเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป โดยกำหนดนัดพิจารณาครั้งต่อไปในวันอังคารที่ 18 มิ.ย. 67

ดังนั้น หากพิจารณาจากไทม์ไลน์ดังกล่าว ทำให้มองเห็นว่าโอกาสที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาไต่สวนหาข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานที่ได้มา ซึ่งนั่นก็หมายความว่า จะยืดเวลาในการวินิจฉัยออกไปอีกระยะหนึ่ง แม้ว่าจะใช้เวลาไม่นานนักก็ตาม แต่ขณะเดียวกัน ในช่วงที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้ มันก็ได้เห็นการเคลื่อนไหวเจรจาทาบทามบรรดา “งูเห่าสีส้ม” กำลังเลื้อยออกไปหารังใหม่ ซึ่งก็ย่อมมีผลต่อการโหวตนายฯคนใหม่ ที่ได้จังหวะเข้ามาไล่เลี่ยกันพอดี!!


กำลังโหลดความคิดเห็น