นายกฯ เปิดงาน “Thailand Buffalo Heritage ควายไทย มรดกไทย” กลางอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา ทักทาย “โก้ เมืองเพชร” ควายเผือกตัวใหญ่ที่สุดในโลก ถามจำได้ไหม เคยเจอกันที่ทำเนียบฯ ย้ำ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนควายไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์
วันนี้ (1 มิ.ย.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปร่วมพิธีเปิดงาน “Thailand Buffalo Heritage ควายไทย มรดกไทย” ที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ณ ลานหลังวัดมหาธาตุและวัดหลังคาขาว เพื่อผลักดันและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ด้วยการนำควายไทยที่มีความผูกพันกับชาวนามาอย่างยาวนาน มาสร้างมูลค่าเพิ่มการตลาด และต่อยอดในการเป็น Soft Power ด้วยวัฒนธรรมตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ นายเศรษฐา ได้เดินทางมาถึงบริเวณงานเวลาประมาณ 17.30 น. โดยมี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ มาร่วมงานด้วย
เมื่อมาถึง นายเศรษฐา ได้เดินไปเยี่ยมชมควายและแวะทักทายผู้ส่งควายเข้าประกวด พร้อมกับสอบถามลักษณะสายพันธุ์รวมถึงการเลี้ยงดู
หลังจากนั้น นายกฯ ได้เดินไปเยี่ยมชม “โก้ เมืองเพชร” ควายเผือกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ของวนาสุวรรณฟาร์ม ที่มีค่าตัว 18 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยนำไปแสดงที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเจอ “โก้ เมืองเพชร” นายกฯ ได้กล่าวว่า “โก้จำได้ไหม เคยเจอกันแล้วที่ทำเนียบรัฐบาล” และยังอีกว่า “ผมยังสูงกว่า ผมสูง 192 แต่ควายเผือกสูง 175”
ทั้งนี้ ภายในงานมีประชาชนที่มาร่วมงานมาขอถ่ายรูปและจับมือกับนายกฯ อย่างเป็นกันเอง โดยนายกฯ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า “วันนี้รู้สึกดีที่ได้ดูควายหลายๆ พันธุ์ ชอบครับ สวยครับ ไม่น่าเชื่อ และเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย หารายได้ได้เลย อยากให้พัฒนาสายพันธุ์ไปเรื่อยๆ ให้ดี”
หลังจากนั้น นายเศรษฐา ได้มอบรางวัลแกรนด์แชมเปี้ยนควายเผือกเพศเมีย และรางวัลแกรนด์แชมเปี้ยนควายดำเพศเมีย แล้วกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ ว่า วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาเปิดงาน Buffalo Thailand Heritage คนไทยอยู่กับควายมาหลายๆ ยุคสมัย และควายก็เป็นเพื่อนเรามานานปี ไม่ว่าจะออกศึกด้วยกัน หรือทำมาหากินด้วยกัน และช่วยกันทำการเกษตร ซึ่งวันนี้ต้องขอขอบคุณคณะทำงาน ที่ช่วยยกระดับความสำคัญระหว่างคนไทยกับควายขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ในการพัฒนาสายพันธุ์ที่ดี จัดการประกวด หารายได้เสริมพิเศษให้กับผู้ที่เลี้ยงควาย ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ การพัฒนาสายพันธุ์ควายสวยงาม ซึ่งเราเห็นอยู่ในขณะนี้ ก็จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ทั้งในเรื่องการท่องเที่ยว การไปมาหาสู่ระหว่างคนต่างชาติที่อยากจะเข้ามาดู เชื่อว่า ในวันนี้ใครได้มาเห็นควายสวยงาม ก็ต้องมีความประทับใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่คิดว่าจะสวยงามขนาดนี้ ไม่ใช่แค่ความสวยเพียงอย่างเดียว แววตาของเขาก็น่ารัก เท่าที่สัมผัสได้ ซึ่งถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีงาม จึงต้องขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดงานนี้ขึ้น หากปีหน้ามีการจัดงานดังกล่าวอีก ก็จะมีคนมาร่วมมากกว่านี้ และรัฐบาลยินดีให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง