กระทรวงเกษตรฯ จับมือ เซินเจิ้น พาโกดา มุ่งผลักดันส่งออกผลไม้คุณภาพของไทยสู่ตลาดจีน พร้อมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารในภูมิภาคเอเชีย
วันที่ 22 เมษายน 2567 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดงานและเป็นสักขีพยานในการลงนามความร่วมมือในการจัดหาผลไม้ไทยคุณภาพสู่ตลาดจีนร่วมกับ นางจาง เซียวเซียว อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) สถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ร่วมเป็นสักขีพยาน ระหว่าง Shenzhen Pagoda Industry Group จำกัด (บริษัท พาโกดา) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ณ เมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ
สำหรับพิธีการลงนามเอกสารความร่วมมือในการจัดหาผลไม้ไทยคุณภาพสู่ตลาดจีนมีจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ 1) บันทึกความร่วมมือในการขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค ระหว่างบริษัท พาโกดา กับ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร 2) หนังสือแสดงเจตจำนงความร่วมมือในการจัดหาผลไม้คุณภาพของไทยสู่ตลาดจีนระหว่างบริษัท พาโกดา กับ Richfield Fresh Fruit Co., Ltd. 3) หนังสือแสดงเจตจำนงความร่วมมือในการจัดหาผลไม้คุณภาพของไทยสู่ตลาดจีนระหว่างบริษัท พาโกดา กับ Sangthai Produce Co., Ltd และ 4) หนังสือแสดงเจตจำนงความร่วมมือในการจัดหาผลไม้คุณภาพของไทยสู่ตลาดจีนระหว่างบริษัท พาโกดา กับ Fuzin Siam Inter Fruit Co., Ltd. ซึ่งคาดว่าภายหลังการลงนามจะมีการจัดซื้อทุเรียนประมาณ 13,824 ตัน และมังคุด 880 ตัน มูลค่ารวม 1,650 ล้านบาท
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเกษตรและอาหารของโลก มีจุดเด่นทางด้านภูมิศาสตร์ สภาพอากาศ และอุตสาหกรรมการเกษตรแบบครบวงจร จึงส่งผลให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารที่มีคุณภาพและความปลอดภัยอันดับต้นๆ ของโลก โดยเฉพาะการผลิตผลไม้เมืองร้อนคุณภาพสูงมากมายหลายชนิด จึงได้ชื่อว่าเป็น Kingdom of Fruits และเป็นประเทศที่ส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีนมากเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้หลักการที่สำคัญ คือ ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรไทย โดยมุ่งเน้นการยกระดับสินค้าภาคการเกษตร ส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร โดยการสร้างแบรนด์เนมสินค้าเกษตร การสร้าง 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง รวมทั้งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพของผลไม้ไทยที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีนที่เป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของไทย
ในปัจจุบันประเทศไทยสามารถส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีนได้ 22 ชนิด และอยู่ระหว่างการขออนุญาตเปิดตลาดส่งออกผลไม้ไทยเพิ่มเติมอีกหลายรายการ ซึ่งประเทศไทยให้ความสำคัญต่อคุณภาพของผลไม้ไทย รวมถึงมาตรฐานของกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนเพื่อทำให้ผู้บริโภคชาวจีนจึงมั่นใจได้ว่าผลไม้ไทยนอกจากจะมีรสชาติที่ดีแล้ว ยังมีคุณภาพ มาตรฐาน และมีความปลอดภัย โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีนกว่า 2.36 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 213,468 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 90 ของมูลค่าการส่งออกผลไม้ของไทย
“ขอขอบคุณสถานเอกอัครราชทูตจีนในฐานะผู้แทนรัฐบาลจีน ที่ให้ความสำคัญและสนับสนุนการจัดงานเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศ และหวังว่า การจัดงานในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันและขยายตลาดผลไม้ที่โดดเด่นและมีคุณภาพของไทยในตลาดจีนเป็นไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อความมั่นคงด้านอาหารของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกอย่างยั่งยืน” ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติม
ด้าน นายหยู หุ้ยหย่ง ประธานบริษัท พาโกดา กล่าวว่า บริษัท พาโกดา ได้จัดซื้อผลไม้ไทยคุณภาพมากกว่า 220,000 ตัน รวมถึงมีความร่วมมือกับสวนผลไม้และโรงคัดบรรจุหลายราย พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานราชการเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมผลไม้คุณภาพสูงของไทยตลอดห่วงโซ่อุตสาหกรรม โดยฝ่ายพาโกดาได้มีการคัดสรรผลไม้ที่โดดเด่นและมีคุณภาพตามมาตรฐานการคัดเลือกสูงสุดของพาโกดา ภายใต้ระบบการแบ่งเกรดผลไม้ที่ถูกคิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลกโดยพาโกดา ซึ่งใช้เกณฑ์ “สี่ระดับ หนึ่งกลิ่น หนึ่งปลอดภัย” ซึ่งผลไม้เหล่านี้ล้วนมาจากแหล่งผลิตที่สำคัญทั่วโลก มีการเจริญเติบโตตามสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ยึดมั่นหลักการผลไม้สุกตามธรรมชาติ และวางจำหน่ายในท้องตลาดช่วงเวลาที่รสชาติดีที่สุดเท่านั้น รวมถึงมีการทดสอบรายการความปลอดภัยมากกว่า 200 รายการ เพื่อให้ได้ผลไม้ที่ทั้งสด อร่อย และปลอดภัย
นอกจากนี้ ภายในงานแถลงข่าว ยังมีการจัดพิธีเปิดงานเทศกาลผลไม้ไทย ประจำปี 2567 ซึ่งฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว และบริษัท พาโกดา กำหนดจะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 8-14 พฤษภาคม 2567 ณ ประเทศจีน เพื่อประชาสัมพันธ์คุณภาพมาตรฐานของผลไม้ไทย และการจัดจำหน่ายผลไม้คุณภาพของไทยผ่านหน้าร้านจำหน่ายผลไม้ของพาโกดา กว่า 6,000 สาขาทั่วประเทศจีน รวมถึงมีการนำสื่อมวลชนและผู้มีอิทธิพลทางความคิด (Key Opinion Leader: KOL) ของจีน เดินทางไปเยี่ยมชมสวนและโรงคัดบรรจุผลไม้คุณภาพของไทย ณ จังหวัดจันทบุรี ในวันที่ 23 เมษายน 2567 อีกด้วย
ทั้งนี้ ประเทศจีนถือเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยต่อเนื่อง และเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดของไทยด้วย โดยในปี 2566 ประเทศจีนมีการนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศไทยมูลค่า 15,433 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเป็นการนำเข้าผลไม้มูลค่า 7,056 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 ในจำนวนนี้เป็นการนำเข้าทุเรียนมูลค่ามากถึง 4,566 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18