xs
xsm
sm
md
lg

“ชาญวิทย์ VS ดร.อานนท์” โวย “วิษณุ วรัญญู” ตกเป็นเหยื่ออธรรม สวนด้วยภาพชัดเจน “อัษฎางค์” ชี้ นศ.จุฬา “กว่าจะรู้เดียงสา”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ บรรดาแถวหน้า สามนิ้ว ที่รวมทั้ง ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และ วิษณุ วรัญญู ขอบคุณข้อมูล-ภาพจาก เฟซบุ๊กผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
ชัดเจนฝ่ายไหน? “ชาญวิทย์” โวย“วิษณุ วรัญญู”ตกเป็นเหยื่ออธรรม “ดร.อานนท์” สวนทันควัน ด้วยภาพ “บรรดาแถวหน้าสามนิ้ว” ไผเป็นไผ “อัษฎางค์” ยกคำพูด นศ. “สามกีบแค่คนส่วนน้อยแต่ดันเป็นผู้นำ” ชี้ “กว่าจะรู้เดียงสา”

นาสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้( 3 เม.ย.67) จากกรณีที่ประชุมวุฒิสภา พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด ตามที่คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ตำรงตำแหน่ง ประธานศาลปครองสูงสุด พิจารณาเสร็จแล้ว คือ นายวิษณุ วรัญญู อดีตรองประธานศาลปกครองสูงสุด โดยเป็นการประชุมลับและลงคะแนนลับ ซึ่งจากผลการออกเสียงลงคะแนนปรากฏว่า นายวิษณุ ไม่ได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงข้างมากจากที่ประชุมวุฒิสภา จึงถือว่านายวิษณุไม่ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด

ต่อมา ศ.พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Charnvit Kasetsiri ระบุว่า..สกัดวิษณุ วรัญญู คนตรง ไร้เส้นสาย เขาตกเป็นเหยื่ออธรรม และ fake news ของผู้ปกครองรัฐสยามประเทศไทย

ภาพ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ จากแฟ้ม
ขณะที่ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ในทันควัน ระบุว่า วิษณุ วรัญญู ชาญวิทย์ เกษตรศิริ พร้อมแชร์ภาพหมู่ “บรรดาหัวขบวนสามนิ้ว” ซึ่งแสดงให้เห็นความสนิทสนมระหว่าง “ชาญวิทย์กับวิษณุ” ตอบโต้

ภาพ นายอัษฎางค์ ยมนาค ขอบคุณข้อมูล-ภาพ จากเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ของนายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความระบุว่า
“กว่าจะรู้เดียงสา”

มีน้องคุยมาว่า…..
“สามกีบ” แค่ "คนส่วนน้อย" แต่ดันเป็น "ผู้นำ" และมีบทบาทสำคัญเช่น อบจ. และ นายกฯ สโมฯ คณะต่างๆ

ผมเลยอยากขอต่อความว่า….

เด็กส่วนใหญ่ ก็ตั้งใจไปเรียนหนังสือนั่นแหละครับ แต่จะมีเด็กเพียงกลุ่มเล็กๆ ที่เปราะบาง ตกหลุมพรางง่าย ถูกหลอกใช้ง่าย ก็จะกลายเป็นพวกบ้าการเมือง

หน้าที่ของนิสิตนักศึกษาคือ การเป็นนักศึกษา เพื่อเรียนหนังสือ ให้มีความรู้มากพอเป็นเกาะกำบังไม่ให้ถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือของใคร แต่ยังไม่ทันเรียนจบ ก็อยากก้าวกระโดดออกมาเป็นกูรู อยากเปลี่ยนแปลงประเทศ อยากเปลี่ยนโลก ถามหน่อยว่าเอาความรู้อะไรมาเปลี่ยนโลก ในที่สุดก็กลายเป็นแขนขาให้พวกที่ไม่หวังดีใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

ก็หันไปดูไอ้แก่ทั้งหลายดูซิ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ในมหา‘ลัย หรือนักการเมือง มันออกมาทำอะไรโง่ๆ มั้ยละ มันไม่กล้าออกมาทำอะไรแบบนั้นหรอก แต่มันหลอกเด็กออกมาทำแทนมัน ด้วยคำพูดเยินยอ เช่น เด็กรุ่นใหม่มีความคิดอ่านทันสมัย ฉลาดกว่าคนรุ่นเก่าไดโนเสาร์

เฮ้อ! ฉลาดมากขนาดว่ายังดำรงชีพอยู่ได้ด้วยการขอเงินไดโนเสาร์ที่บ้าน ถ้าไดโนเสาร์ที่บ้านไม่ส่งเสียก็อดตาย แล้วก็ฟังคำเยินยอของไอ้อาจารย์แก่ไดโนเสาร์ที่หลอกใช้ลูกชาวบ้าน ไม่เห็นเชียร์ลูกหลานตนเองออกมาทำอะไรแบบที่หลอกลูกชาวบ้านไปทำเลย

นิสิตนักศึกษาที่ทำกิจกรรม อยู่ในองค์กรนักศึกษา เพื่อเคลื่อนไหว เป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น พอพวกนี้ได้ทำอะไรแบบนี้แล้วเหมือนได้คำตอบของชีวิต ได้แสง

คิดง่ายๆ ไม่ต้องมองไปไกล เอาตัวเราเองสมัยเรียนมหา‘ลัย เราเข้าทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการหรือไม่ เพื่อนๆ รอบตัวเราไปร่วมกิจกรรมกับเขาหรือไม่ เราเดินเข้าองค์กรนักศึกษาหรือไม่ เคยเข้าไปกี่ครั้ง

คำตอบคือ เคยบ้าง หรือบางคนไม่เคยเลย จริงมั้ยครับ

เพราะฉะนั้น ไอ้พวกเปราะบาง กระโหลกหนา กระโหลกบางตายช้า กะโหลกหนาตายก่อน มันถึงยึดครององค์กรนักศึกษาได้ แล้วมันก็ชี้นำหรือทำกิจการบ้าๆ แบบที่เห็นนั่นแหละครับ

ดูชีวิตจริงตามช่วงวัยของเราก็ได้ คนเรียนเก่ง ทำงานเก่ง เขาก็ทำงานตำแหน่งใหญ่โตในองค์กรเอกชนหรือราชการ

ในขณะที่ไอ้พวกหลังห้อง เรียนจบมาได้เพราะลอกการบ้าน ลอกข้อสอบ มันไปคลุกคลีอยู่ในวงการเมือง เพราะไปไม่รอดตามแบบชีวิตปกติ

หัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ ยังเคยมีประวัติ มีข่าวเรื่องโกงข้อสอบเข้าเรียนมหา’ลัยดังจำได้มั้ย นั้นแหละตัวอย่างของทางลัดของพวกขี้โกงที่อยากขึ้นมามีหน้ามีตาในสังคม

แล้วมันก็ใช้วิธีโกงๆ ของมัน โกงจนร่ำรวย สร้างคอนเน็กชั่น จนในที่สุดมันก็เป็นนักการเมืองใหญ่ โกงชาติเอาเงินมาเลี้ยงพรรคพวก เพื่อค้ำชูเก้าอี้ของตัวเอง

คือที่เล่าแบบนี้ ไม่ได้เหมานักการเมืองทั้งหมดนะครับ นักการเมืองที่มีอุดมการณ์ดีๆ หวังจะมาเสียสละทำงานเพื่อชาติและประชาชนนั้นมีมากกว่าอยู่แล้ว

แต่ไอ้ตัวเห่ยๆ สมองกลวงมีไม่มากหรอก เพียงแต่มันเสียงดังเท่านั้น

ก็เหมือนพวกนิสิตนักศึกษาในองค์กรนักศึกษา(บางคน) นั่นแหละ เสียดัง แต่สติสัมปชัญญะต่ำ จึงเป็นอาหารอันโอชะของพวกที่คิดทำลายชาติ และคิดล้มล้างการปกครอง


กำลังโหลดความคิดเห็น