อดีต ส.ส.ปชป. มอง “ทักษิณ-เศรษฐา” จะเจอกันที่เชียงใหม่ ไม่ใช่บังเอิญ แต่จงใจนัดแนะให้เวลาเหลื่อมล้ำ ไม่ให้น่าเกลียด เตือน นช.แม้ว แม้ไม่ขัดเงื่อนไข 5 ข้อ แต่อย่าท้าทายความรู้สึก ปชช.
วันนี้ (10 มี.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 14-16 มีนาคม และ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 15-17 มีนาคมเช่นเดียวกันนั้น ไม่ใช่เป็นความบังเอิญ แต่เป็นความจงใจที่ต้องการใช้การลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ของทั้ง 2 คน เพื่อได้พบปะพูดคุยกัน และการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่โดยใช้วันเวลาที่เหลื่อมกัน เพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดจนเกินไป การไปเชียงใหม่ของนายเศรษฐา ก็เพราะมีประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดพะเยา ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว
ส่วน นายทักษิณ อ้างเรื่องการไปไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งปกติตามธรรมเนียมของคนจีน การไหว้บรรพบุรุษ หรือวันเช้งเม้ง ปีนี้ตรงกับวันที่ 4 เมษายน 2567 และคนจีนจะนิยมไหว้บรรพบุรุษในวันเช้งเม้งเป็นส่วนใหญ่ เว้นแต่มีเหตุจำเป็น ก็สามารถไหว้ก่อนได้ก่อน 7 วัน แต่นายทักษิณเลือกไปไหว้บรรพบุรุษในวันที่ 15 มีนาคม ก็ผิดจากประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติกัน แต่คงเพื่อต้องการที่จะให้ได้พบกับนายเศรษฐา โดยไม่ต้องการให้วันเดินทางตรงกันเป๊ะ จนน่าเกลียดเกินไป จึงจัดเวลาเดินทางให้เหลื่อมกันเล็กน้อย การที่นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ที่ต่างประเทศ ว่า จะพบกับนายทักษิณหรือไม่นั้น ต้องดูก่อนว่าหากมีเวลาตรงกันคงได้เจอกัน ซึ่งตนขออนุญาตทำนายไว้ล่วงหน้า 3 ข้อ คือ 1. มีเวลาตรงกัน 2. มีโอกาสได้พบกัน 3. จะพบกันในคืนวันที่ 15 ”
“การพบกันของคุณทักษิณ กับ คุณเศรษฐา ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย และไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะทั้งสองเคยพบกันมาแล้ว และสามารถพบปะได้เป็นประจำ ในฐานะที่คุณทักษิณเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย เป็นผู้สนับสนุนให้คุณเศรษฐาขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี แม้ตอนนี้จะไม่ได้เป็นที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ ก็เป็นที่ปรึกษาแบบลับๆ ได้”
นายเทพไท กล่าวว่า การเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ของนายทักษิณ ได้รับการอนุญาตจากกรมคุมประพฤติแล้ว ไม่ขัดต่อระเบียบหรือเงื่อนไข 5 ข้อห้าม 5 ข้อทำได้ แต่การปฏิบัติของคุณทักษิณ ที่อยู่ในระหว่างการพักโทษ จะมีความเหมาะสม หรือขัดต่อความรู้สึกของประชาชนหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่าทำอะไรที่ฝืนความรู้สึกหรือท้าทายความรู้สึกของประชาชน อย่าย่ามใจว่า ฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณ จุดกระแสไม่ติด แต่ถ้าประชาชนมีความอัดอั้นตันใจ คับแค้นใจมากๆ ก็จะอาจจุดติดขึ้นมาก็ได้ จึงขอเตือนไว้ในฐานะเพื่อนนักโทษด้วยกัน
