xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เผย เตรียมยกระดับความเป็นอยู่-แก้หนี้ทหาร หลังเยี่ยมบ้านพัก-รพ.ค่ายประจักษ์ฯ ยันไม่ควรลดกำลังพลด้านหมอ-พยาบาล เหตุต้องให้บริการ ปชช.ด้วย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ เผย หลังตรวจเยี่ยมบ้านพักทหาร-รพ.ค่ายประจักษ์ศิลปาคม เตรียมยกระดับความเป็นอยู่-แก้หนี้ทหาร ชี้ ไม่ควรลดกำลังพลด้านหมอ-พยาบาล-เทคนิคการแพทย์-เภสัช เพราะต้องให้บริการประชาชนด้วย เตรียมหารือ “ชลน่าน” เภสัชฯ รพ.ทหาร รายได้น้อยกว่าเภสัชฯ สธ.

เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 19 ก.พ. ณ ที่ว่าการอำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงการเดินทางไปเยี่ยมค่ายทหารประจักษ์ศิลปาคม และโรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม ว่า ได้เดินทางไปร่วมกับ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เพื่อไปตรวจเยี่ยมค่าย และดูบ้านพักทหารที่สร้างมา 100 กว่าปี บางแห่งก็กว่า 80 ปี และได้เดินทางต่อไปดูที่โรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม ที่มี 200 เตียง ซึ่งมีประชาชนหนาแน่น การเดินทางไปตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ ก็เป็นไปตามแผนทั้งหมดที่เราได้วางไว้ โดยได้มีการพูดคุยกับ ผบ.ทบ.ไปหลายเรื่อง ทั้งเรื่องบ้านพัก เรื่องของโรงพยาบาล เรื่องหนี้ของทหารรวมทั้งเรื่องกำลังพลที่มีการพูดกันว่าจะมีการลดจำนวนกำลังพล

แต่อย่าไปพูดถึงการลดกำลังในส่วนของแพทย์และพยาบาล และเทคนิคการแพทย์ เพราะบางเรื่องที่เป็นเรื่องเฉพาะทางอย่างเช่นแพทย์พยาบาลหรือเทคนิคการแพทย์ ไม่ควรจะลดกำลังพล เพราะโรงพยาบาลทหารทั่วประเทศทุกโรงพยาบาลบริการประชาชนประมาณ 70% ถึง 80% และแพทย์มีไม่เพียงพอ อย่างที่โรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคมมีหมอเพียง 19 คน มีจำนวนเตียงผู้ป่วย 200 เตียง ทำให้ไม่เพียงพอจะเห็นได้ว่ามีประชาชนจำนวนมากเข้าไปรับบริการ ทั้งนี้เมื่อได้ถามประชาชนที่เข้าไปรับการรักษาว่าพอใจหรือไม่ ซึ่งประชาชนทุกคนยืนยันว่า มีความสุขมาก และการไปครั้งนี้ตนไม่ได้กำหนดไว้ในแผน ทุกคนหน้าตา ยิ้มแย้มแจ่มใส


นายกฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนยังได้ไปดูในเรื่องของอุปกรณ์ว่าเพียงพอหรือไม่ รวมทั้งบุคลากรและรายได้ของเภสัชกรที่ยังขาดแคลนอยู่ โดยเฉพาะเภสัชกรที่ทำงานในโรงพยาบาลทหาร มีรายได้ที่น้อยกว่าเภสัชกรที่ทำงานของสาธารณสุข เป็นข้าราชการเหมือนกันแต่มีรายได้ที่แตกต่าง ซึ่งตนก็สงสัยว่าทำไมถึงต้องมีข้อแตกต่างแบบนี้ โดยผบ.ทบ.ได้นั่งรถมาด้วยกันได้มีการพูดคุยกันมีหลายเรื่องที่เราสามารถที่จะทำได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น

เมื่อถามถึงเรื่อง 30 บาทรักษาทุกที่ จะสามารถเริ่มได้ด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีส่วนและประชาชนก็ใช้อยู่แล้ว แต่ยังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายเยอะแยะไปหมด ซึ่งเดี๋ยวจะมีการพูดคุยกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข


เมื่อถามย้ำว่า จะสามารถเข้าร่วมในโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ได้ด้วยกันใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ได้แน่นอนทั้งหมด แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่บุคลากรที่มีไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของทหารเองก็มีโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกองทัพบก มีส่วนในการช่วยผลิตบุคลากร ที่มีคุณภาพส่งเสริมการเติบโต ทางเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชนได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญการที่จะลดกำลังพลจะต้องไม่เกี่ยวกับส่วนนี้

เมื่อถามว่า ทั้งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข และทางทหารสามารถที่จะบูรณาการงานร่วมกันได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แน่นอน เพราะโรงพยาบาลทหารปัจจุบัน 70% เป็นพลเรือนที่เข้ารับการรักษา โรงพยาบาลใหญ่ๆ อย่างโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า และอีกหลายที่ ประชาชนก็เข้าไปรับบริการ ซึ่งโรงพยาบาลจำนวน 200 เตียง มี 10 กว่าโรงพยาบาลทั่วประเทศ และทุกโรงพยาบาลกว่า 70% ทำหน้าที่ดูแลประชาชน อีกทั้งสถานบริการขนาดเล็กอย่างสถานีอนามัย ก็ต้องช่วยกันดูแลตรงนั้นด้วย

ด้าน ผบ.ทบ. กล่าวด้วยว่า โรงพยาบาลทหารสามารถอยู่ร่วมในโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ได้ และโรงพยาบาลทหารก็รับบัตรทองด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น