“จุลพันธ์” ซัดคนนั่งบนหอคอย ค้าน “ดิจิทัลวอลเล็ต” เปรียบมีคนดักตีหัวก่อนเข้าบ้าน ทำให้ล่าช้า ยันเดินหน้าต่อ ย้ำ มาช้าแต่มาชัวร์ ขอประชาชนอดทนรอ-เชียร์รัฐบาลด้วย
วันนี้ (19 ก.พ.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระหว่างเดินทางมาร่วมงานมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตาม ภายใต้โครงการนำร่อง “หนองวัวซอโมเดล” ที่จังหวัดอุดรธานี ได้กล่าวกับชาวบ้านที่มานั่งระหว่างรอนายกรัฐมนตรี ในเรื่องของเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่อยากจะบอกว่า อุปสรรคมี เพราะมีคนบอกว่าไม่อยากให้คนรวย ให้แค่คนเปราะบาง หรือคนทุกข์ คนยาก และก็มีคนบอกอีกว่าไม่ต้องให้เลย แต่วันนี้ตนบอกว่า เศรษฐกิจวันนี้มันวิกฤต ไปถามประชาชนทุกคนก็บอกเศรษฐกิจไม่ดี เพราะฉะนั้นการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่จำเป็น
วันนี้เรายืนยันว่า แม้จะมีอุปสรรค แต่เดินหน้าแน่นอน ยังไงก็ต้องแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตให้ประชาชนได้
แต่ขอความเห็นใจ ซึ่งทุกคนก็เห็นแล้วว่ามีหนังสือจากหน่วยงานรัฐ และมีการคัดค้านจากบางกลุ่ม บางคน และบางคนอยู่บนหอคอยไม่ได้ลงมาสัมผัสแบบพวกเรา และบอกว่าไม่มีความจำเป็น เพราะประชาชนมีกำลังซื้อ มีเงิน แต่อยากให้ลองตบกระเป๋าตัวเองดูว่ามีเงินจริงหรือไม่
ถ้าเขาไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเราต้องทำ ก็ต้องอธิบายทำความเข้าใจ แต่รัฐบาลยืนยันว่าจะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการออกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้กับ 50 คน คนละ 10,000 บาท เพราะเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนหลายคน และหลายคนจะเอาไปต่อยอด ไปทำอาชีพ เพราะ 1 คน 1 หมื่น ในครอบครัวมี 5 คน ก็ 5 หมื่นบาท ที่จะทำให้พลิกชีวิตเปลี่ยนชีวิต นำไปซื้อปัจจัยการผลิต ไปซื้ออุปกรณ์การเกษตร และไปลงทุนทำร้านอาหาร ถือเป็นโอกาส ที่รัฐบาลกำลังมอบให้ แต่หากผู้ที่ยังเห็นต่างไม่เข้าใจก็จะพยามทำความเข้าใจ
โดยวันนี้ขอความเห็นใจกับพี่น้องประชาชน ว่า อาจจะล่าช้า ที่ต้องเลื่อนจากเดือนกุมภาพันธ์ มาเป็นพฤษภาคม และเลื่อนออกไปอีก ซึ่งหากถามว่าทำไมถึงต้องเลื่อน เพราะกำลังจะเปิดประตูเข้าบ้านและมีคนดักตีหัวอยู่ จะเดินเข้าไปได้เหรอ รัฐบาลก็ต้องอดทน ประชาชนก็ต้องอดทน แต่ไม่นานเกินรอมาช้าแต่มาชัวร์เพื่อให้ 10,000 บาท ถึงมือทุกคนให้ได้
วันนี้ ต้องเป็นกำลังใจให้กันและกัน พวกเราทำงานให้ท่านอย่างสุดตัว ส.ส.ก็ลงพื้นที่ทำงานอย่าง วันนี้ขอกำลังใจให้รัฐบาล และ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และเราจะเดินหน้าเปลี่ยนประเทศ จะทำให้ 4 ข้างหน้าเป็น 4 ปีที่ดีขึ้น ชีวิตดีเศรษฐกิจดี