“จตุพร” ชี้ “ทักษิณ” พักโทษกลับบ้าน ก็ยังไม่จบ เหตุ “ดีล” ยังอยู่ และอยู่ที่จะเบี้ยว “ดีล” หรือไม่ ระบุ ช่วงก่อนสงกรานต์อาจมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล “ไพศาล” เชื่อ “ทักษิณ” เป็นเสือ ไม่ใช่ลูกวัว คาดหวนคืนทำเนียบฯ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(16 ก.พ.67) นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า หลัง 18 ก.พ.นี้ เมื่อทักษิณ ชินวัตร ได้พักโทษออกจากชั้น 14 รพ.ตำรวจ กลับบ้าน ไม่ได้หมายความว่า อารมณ์เดือดของประชาชนจะจบลงไป เพราะยังมีสถานการณ์ดีลชนวนแปรให้เกิดภาวะแทรกซ้อนกรณีอื่นๆ มาทำให้บ้านเมืองเข้าสู่วิกฤตก็ได้
“การพักโทษออกจากชั้น 14 รพ.ตำรวจ สังคมจะไม่ได้เห็นการอายัดตัวทักษิณในคดี 112 หรือเห็นภาพการกลับไปบ้านจันทร์ส่องหล้าที่ถูกเตรียมไว้รองรับ เพราะปรากฏการณ์ทักษิณที่ผ่านมา ทำให้หน่วยงานรัฐทั้งกระทรวงยุติธรรม ราชทัณฑ์ ตำรวจ และอัยการล้วนมีท่าทีผิดปกติ และมากด้วยข้อสงสัยกันไปหมด”
“จตุพร” ประเมินว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถคาดสถานการณ์ทักษิณ พักโทษ และกรณี น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ กับขบวนเสด็จสมเด็จพระเทพฯ อีกทั้งการแจกเงินตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะจบกันอย่างไร แต่ตนภาวนาให้เกิดการเบี้ยวดีลให้ได้ เพราะถ้าไม่เบี้ยวแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่ปกปิดไว้ คนไทยอาจไม่ได้เห็นเลย ดังนั้น การเบี้ยวดีลจึงจะเป็นการเปิดเผยความจริงที่ซุกซ่อนไว้
“สิ่งที่จะเห็นหากมีการรักษาดีลกันไว้คือ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของรัฐบาลอย่างใดอย่างหนึ่งในช่วงก่อนสงกรานต์นี้ เพราะนั่นเป็นการตกลงกันโดยไม่สนใจความรู้สึก และความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทุกกระบวนการของประเทศนี้”
“จตุพร” กล่าวว่า จากนี้ไปช่วงเวลารอการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล หากเกิดสิ่งไม่คาดฝัน เช่น กรณีของตะวัน ลุกลามออกไปจนยากจะหาจุดจบ หรือเมื่อมีการเบี้ยวดีลกัน และมีข้อเท็จจริงบางอย่างปรากฏขึ้น การปรามาสว่าผู้ชุมนุมจุดไม่ติดก็จะเจอฤทธิ์คนไทยในครั้งนี้ แล้วรัฐบาลจะอยู่ลำบากยิ่งขึ้น
“เชื่อว่า แม้ทักษิณ ได้พักโทษ กลับบ้าน แต่ความคลางแคลงใจ เสียงประจานอภิสิทธิ์ชนก็ยังจะไม่จบ และเขาจะออกจากบ้านด้วยสภาพอย่างไร ส่วนที่บอกจะลงพื้นที่พบปะประชาชนคงไม่ง่ายอย่างที่พูดกันลอยๆ ไว้แน่นอน เพราะอาจจะกลายเป็นสถานการณ์ไม่แตกต่างจากเหตุการณ์ก่อนเกิด 19 ก.ย. 2549 อีกรอบหนึ่งก็ได้”
ขณะเดียวกัน นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุว่า
“ทักษิณ จะออกจาก รพ.ตำรวจ กลับบ้านวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ เวลาช่วง 0.18 ถึง 1.48 ถือยามพระอังคารซึ่งเป็นยามเดช กับวันอาทิตย์ และถือว่าเป็นยามแห่งอำนาจ และสอดคล้องกับตำแหน่งของพระอังคารในดวงเมืองด้วย!
ตามพระบรมราชโองการขอพระราชทานอภัยโทษให้กับคุณทักษิณนั้นได้ระบุว่าเพื่อให้นำความรู้ความสามารถมาช่วยเหลือทำประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ
ดังนั้นคุณทักษิณจึงมีความชอบธรรมอย่างเต็มที่ ที่จะถือเอาพระบรมราชโองการดังกล่าว มาปฏิบัติหน้าที่ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน
และถ้าดูจากตำแหน่งแหล่งที่ในปัจจุบันนี้ก็เป็นไปได้ว่า รัฐบาล อาจแต่งตั้งให้ คุณทักษิณดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงานของนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะตั้งขึ้นมาใหม่หรือไม่ก็เป็นผู้แทนการค้า ซึ่งเป็นผู้แทนของนายกรัฐมนตรี ในการค้าขายและการลงทุนระหว่างประเทศ ซึ่งจะมีรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ภูมิธรรมเป็นผู้ช่วยสนองงาน โดยขณะนี้ ยังมี ตำแหน่งผู้แทนทางการค้า ว่างอยู่อีก 2 ตำแหน่ง
ใครที่เข้าใจว่า คุณทักษิณเป็นตัวประกันนั้น ก็เป็นความเข้าใจของลูกวัว ที่คิดว่าเสือก็เป็นลูกวัวเหมือนกัน เท่านั้นเอง
cr.ภาพ พระสมเด็จวังหน้า รุ่น 2 แผ่นดิน มวลสารเนื้อดินจากมณฑลเชียงซู ด้านหลังมีอักษรจีน ว่าเจ้าสัว เข้าพิธีมหาพุทธาภิเษก เมื่อปี 2511 ในโอกาสฉลองพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ครองราชย์ 1 ปี โดยสมเด็จกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญเป็นประธานฝ่ายฆราวาส สมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสีเป็นประธานฝ่ายสงฆ์
คุณทักษิณก็เป็นคนสองแผ่นดินจึงควรจะหาพระสมเด็จรุ่นนี้มาไว้บูชา”