xs
xsm
sm
md
lg

“เศรษฐา” ไม่เห็นด้วย กนง.คงดอกเบี้ย 2.5% เงินเฟ้อติดลบ 4 เดือนแล้ว ไม่มีสิทธิไปก้าวก่าย แต่อยากเห็นการเงินการคลังไปด้วยกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ ไม่เห็นด้วย มติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5 % แต่ไม่มีสิทธิไปก้าวก่าย แค่อยากบอกความเดือดร้อนของประชาชน อยากเห็นนโยบายการเงินการคลังไปด้วยกัน เพราะเงินเฟ้อติดลบมา 4 เดือนแล้ว

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 7 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ว่า ก็ต้องน้อมรับว่า เป็นหน้าที่ของเขา เราไม่มีสิทธิไปก้าวก่ายอะไร หน้าที่ของตน คือ ให้ข้อคิดเห็นในฝ่ายรัฐบาลว่า ควรจะทำอย่างไรบ้าง ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอยู่ตรงไหน แต่ผลโหวตออกมาอย่างนั้น รัฐบาลไปก้าวก่ายไม่ได้ ถามว่า เห็นด้วยไหม คงไม่เห็นด้วย ทาง กนง.มีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายด้านการเงิน แต่เราเองก็อยากเห็น อย่างที่ตนเคยเรียน และที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เคยบอกว่า เราอยากเห็นนโยบายการเงินการคลังเดินไปด้วยกัน เพราะตอนนี้เงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 4 เดือนแล้ว

เมื่อถามว่า การประชุม กนง.ครั้งนี้ ดอกเบี้ยไม่ลด การประชุมครั้งหน้า คาดหวังว่า ดอกเบี้ยจะลดใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องดูตัวเลขไปเรื่อยๆ ตนไม่ได้มีธงว่า ต้องลดหรืออะไร เพราะตัวเลขมันออกมาตลอดเวลา ถ้าเกิดตัวเลขบ่งชี้ไปว่า ไม่จำเป็นต้องลด ตนก็จะออกมาบอกในความคิดเห็นของตนเป็นการเห็นต่าง เห็นด้วย หรือเห็นสมควร หรือต้องการโน้มน้าวก็ต้องมีการพูดคุยก็จะทำต่อไป

เมื่อถามว่า ความเห็นต่างระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติที่ออกมาแบบนี้ การเดินหน้าบริหารนโยบายจะทำให้มีอุปสรรคอะไรหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีอุปสรรคก็ต้องแก้ไขกันไปทุกๆ เรื่อง ทั้งยาเสพติด ความปลอดภัยภาพรวมประเทศ ปัญหา PM 2.5 เรามาอยู่ตรงนี้แล้ว เราถูกเลือกมาแล้วเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน เราถูกเลือกให้มาดูแลปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ทุกปัญหามีความยากง่ายแตกต่างกันไป ก็พยายามต่อไป ไม่ได้เสียกำลังใจ ไม่ได้ท้อถอย เพราะเรามายืนตรงนี้แล้ว ความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ต้องดูแล ถึงแม้จะมีความเห็นต่างก็ต้องพูดคุยกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น