เปิดเหตุ ป.ป.ช.เเก้ 3 ปมเงินดิจิทัลฯ จับตาบิ๊กสนามบินน้ำตั้งที่ปรึกษา-อนุ กก. จ่อสืบทอดอำนาจหรือไม่
วันนี้ (6 ก.พ.) รายงานข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเห็นชอบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ฉบับปรับปรุงหลังจากที่เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ดังนั้น ป.ป.ช. มีมติอนุมัติหลักการร่างข้อเสนอแนะจากรายงานของคณะกรรมการเพื่อศึกษาและดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ที่มี นางสาวสุภา ปิยะจิตติ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานฯ
แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติม สำหรับข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาทฯ ฉบับปรับปรุงใหม่ มีการปรับปรุงเนื้อหาของร่างข้อเสนอแนะฯ ฉบับเดิม 3 ประเด็นจาก 9 ประเด็นที่ นางสาวสุภา เสนอมา
รายงานข่าวกล่าวว่า เพราะข้อเสนอแนะในรายงานของนางสาวสุภา นั้นบางประเด็นมีรายละเอียดหรือข้อมูลไม่ครบถ้วน และอาจไม่เป็นธรรมกับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นหากกรรมการ ป.ป.ช. จะยึดรายงานของนางสาวสุภาทั้งหมดและผ่านความเห็นชอบไปนั้น อาจจะถูกบางฝ่ายตำหนิการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ได้ จึงต้องปรับแก้ไขให้รายงานที่ ป.ป.ช.จะเสนอต่อรัฐบาลให้มีความเป็นกลางและเป็นธรรม เพราะเร็วๆ นี้ ป.ป.ช.จะต้องชี้มูลความผิดในคดีสำคัญๆ หลายคดีและเผยแพร่ให้สังคมรับทราบการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่วินิจฉัยในคดีเหล่านั้นตามอำนาจหน้าที่
รายงานข่าวกล่าวว่า นอกจากนี้ยังต้องจับตาว่า ว่าที่กรรมการ ป.ป.ช. ใหม่อีก 4 คนนั้นจะได้เริ่มทำหน้าที่เมื่อใด แม้ตอนนี้ ป.ป.ช. จะมีกรรมการ ป.ป.ช. 5 คนจาก 9 คนที่สามารถทำงานได้ก็ตาม แต่ตอนนี้มีกระแสข่าวว่า อดีตกรรมการ ป.ป.ช. และอดีตที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช. บางคนที่พ้นวาระและหน้าที่ไปแล้ว และมีข้อครหา รวมถึงการฟ้องร้องดำเนินคดี ระหว่างการทำหน้าที่ในสำนักงาน ป.ป.ช.นั้น ทราบว่าบุคคลดังกล่าวกำลังพยายามที่จะกลับมาทำหน้าที่ที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช. และอนุกรรมการบางคณะให้ได้ท่ามกลางการทักท้วงและการร้องเรียนความไม่เหมาะสมดังกล่าว เช่น ข่าวคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ในคราวนี้ทั้งที่มีการร้องเรียนผู้สมัครคนนั้นในการทำหน้าที่บอร์ดรัฐวิสาหกิจเเห่งหนึ่งว่าไม่โปร่งใส , ข่าวร้องเรียนกรรมการ ป.ป.ช. เเละที่ปรึกษา ป.ป.ช. บางคนว่าทำหน้าที่เเบบสองมาตรฐานเเละไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ไปยังประธาน ป.ป.ช.แล้ว โดยทราบว่าบุคคลดังกล่าวกำลังประสานกับกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหม่ และว่าที่กรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอรับหน้าที่ดังกล่าว
“เพราะทราบว่าหาก อดีตกรรมการ ป.ป.ช. และอดีตที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช. บางคนที่พ้นวาระไปแล้ว หากกลับมาทำหน้าที่ที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช. และอนุกรรมการบางคณะได้ ก็เสมือนว่าบุคคลเหล่านั้นยังสามารถทำหน้าที่ในสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ต่อเนื่องและอาจมีอิทธิพลในการให้ความเห็นเกี่ยวกับการชี้มูล/ไม่ชี้มูลความผิด รวมทั้งอาจมีผลกับการเสนอให้มีการทบทวนมติคำร้องและคดีต่างๆ ที่ทาง ป.ป.ช. ดำเนินการไปแล้วและกำลังดำเนินการ และตอนนี้มีหลายคดีที่สังคมให้ความสำคัญซึ่งมีการยื่นเรื่องมายัง ป.ป.ช. แล้ว
ดังนั้น การพยายามประสานงานผ่านการดีลของนายตำรวจใหญ่คนหนึ่งที่ผลักดันอดีตกรรมการ ป.ป.ช. และอดีตที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช. บางคนให้กลับมาทำหน้าที่ในสำนักงาน ป.ป.ช. นั้น ทราบว่ากำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะมีบางคดีที่บางฝ่ายต้องการผลักดันให้มีผลในทางใดทางหนึ่งเกิดขึ้นให้ได้ จึงเกิดความพยายามประสานงานดังกล่าวให้ลุล่วง ตรงนี้ต้องติดตามว่าความพยายามดังกล่าวจะเกิดขึ้นและจะมีผลอย่างไรกับ ป.ป.ช. ในเร็ววันนี้และรอดูการพิจารณาของประธาน ป.ป.ช. ด้วยว่าจะอนุมัติการแต่งตั้งอดีตกรรมการ ป.ป.ช. และอดีตที่ปรึกษากรรมการ ป.ป.ช. บางคนให้กลับมาทำหน้าที่ในสำนักงาน ป.ป.ช.หรือไม่” รายงานข่าวกล่าว