นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิวภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความวิเคราะห์หลังศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ชี้ “ก้าวไกล” แก้ ม.112 ล้มล้างการปกครองด้วยวิธีซ่อนเร้นผ่านสภา เผยอนาคตพรรคก้าวไกลและพิธามีแค่ 2 ทาง คือ ยุบพรรค-ตัดสิทธิการเมือง
จากกรณีศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ ชี้นโยบายหาเสียงแก้ ม.112 ของพรรคก้าวไกล เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครอง พร้อมสั่งหยุดการกระทำ ชี้เป็นพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการลดทอนความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์โดยซ่อนเร้นด้วยวิธีการหาทางรัฐสภา สั่งยุติการกระทำ
ล่าสุดวันนี้ (1 ก.พ.) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว "สมชาย แสวงการ" พูดถึงประเด็นดังกล่าว ชี้ อนาคตของพิธา-พรรคก้าวไกล มีแค่ยุบพรรคหรือตัดสิทธิทางการเมือง โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า
"หลังจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ 31 ม.ค. 2567 วินิจฉัยชี้ชัดเจนว่า นายพิธาและพรรคก้าวไกลมีพฤติการณ์และเจตนายกเลิกมาตรา 112 และอื่นๆ ถือเป็นการกระทำในการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สั่งการให้ยกเลิกการกระทำทันทีและทั้งหมดในอนาคตต่อไปด้วยแล้ว
คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร ดังนั้นผู้ร้องและผู้เกี่ยวข้องต้องดำเนินคดีความทางกฎหมายต่อไปทันที อย่างน้อยทั้ง 2 ช่องทาง ดังนี้
ช่องทางที่ 1) ผู้ร้องดำเนินการยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.เพื่อให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคต่อไป ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 92 หรือ นายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นความปรากฏเองแล้วเสนอต่อ กกต.เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคได้ทันที
ช่องทางที่ 2) ผู้ร้องดำเนินการยื่นเรื่องต่อป.ป.ช.กล่าวหา 44 ส.ส. ที่ลงชื่อเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง เพื่อขอให้ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด ส่งศาลฎีกานักการเมือง เพื่อพิพากษาว่า ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช.มาตรา 87 ประกอบมาตรา 81 ที่ระบุว่า เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนและมีความเห็นว่า ผู้ดํารงตําแหน่ง ทางการเมือง………… ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย……………
มาตรา 81 ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองประทับฟ้อง ตามมาตรา 77 ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคําพิพากษา เว้นแต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น
ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําพิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหากระทําความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ให้ผู้ต้องคําพิพากษานั้นพ้นจากตําแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น และจะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกินสิบปีด้วยหรือไม่ก็ได้
ผู้ใดถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไม่ว่าในกรณีใด ผู้นั้นไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นตลอดไป และไม่มีสิทธิดํารงตําแหน่งทางการเมืองใดๆ"