วันนี้(5 ธ.ค.)นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แสดงความคิดเห็นผ่านรายการสามารถ 5 นาที ทางเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss ว่า มีประชาชนถามตนเข้ามาเยอะว่า เรื่องของ น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล เป็นอย่างไร วันนี้ตนต้องกล่าวให้เห็นก่อนว่า คุณไอซ์ รัชนก นั้นเป็นผู้ถูกกล่าวหา เป็นผู้ต้องหา เป็นจำเลย คำว่าจำเลยก็คือ ตอนนี้กระบวนการอยู่ชั้นศาลแล้ว อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องคุณไอซ์ในข้อหามาตรา 112 และผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ด้านคุณไอซ์เองก็ร่างจดหมายยาวเลย เขียนขอเลื่อนศาลว่า เนื่องจากติดสมัยประชุมสภาฯ
“ผมอยากถามว่า ทำไมคุณไอซ์ต้องเอาสภาฯมาอ้าง เดินยืดอกไปเลย ขึ้นศาลไปฟังเลยว่า ศาลจะอ่านว่าอย่างไร จำคุกหรือรอลงอาญา ผิดไม่ผิด อย่างคำโบราณเขาบอกว่า ไม่ได้ทำชั่ว จะกลัวอะไร คำนี้มันเหมาะกับคุณไอซ์ ในเมื่อคุณไอซ์คิดว่าสิ่งที่ทำมันไม่ผิด คุณไอซ์ก็คิดว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มาตรา 14 พรบคอมพิวเตอร์ขัดรัฐธรรมนูญหรือเปล่า เพื่อจะดึงเวลาให้ศาลเลื่อนการอ่านคำพิพากษาไปก่อน เพราะเรื่องนี้ร้องอยู่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ศาลรัฐธรรมนูญเขารู้ทัน เขาก็ประชุมองค์คณะเลย เขาพิจารณาง่ายนิดเดียว ว่า พ.ร.บคอมนี้มันขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะพ.ร.บ คอมมันเกิดสมัย สนช.ที่ผ่านมา ในปีพ.ศ 2560 ฉะนั้นตอนเขาประชุมกันเขารู้อยู่แล้ว ว่ารัฐธรรมนูญเขาว่ายังไง
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ถ้าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ก็แปลว่าศาลยุติธรรมก็สามารถที่จะพิจารณาคดีได้ ศาลก็นัดอ่านวันที่ 13 ธันวาคมนี้ แต่คุณไอซ์ก็อ้างว่าวันที่ 13 นั้นเปิดสมัยประชุมสภาแล้วมีพระราชกฤษฎีกาเรียกเปิดสมัยประชุมแล้ว ตนจะให้ฝ่ายเลขาไปตรวจสอบว่าคุณไอซ์ เคยขาดประชุม โดดประชุม หรือลาประชุมสภาหรือไม่ ถ้าเคยก็แปลว่า ทำไมต้องไม่มาลาในวันที่ศาลจะอ่านคำพิพากษาด้วย
นอกจากนี้ นายสามารถ ยังกล่าวถึง นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา หรือ แจ้ สส.ปราจีนบุรี และ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือ ปูอัด ส.ส.กทม.2 สส.ที่ถูกขับออกจากพรรคก้าวไกล ว่า 2 คนนี้เป็นแค่ผู้ถูกกล่าวหาโดยสังคม ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหาเลย และยังไม่เคยถูกกล่าวหาโดยพนักงานสอบสวน ฉะนั้น ตนอยากจะฝากไปถึง สส.ทั้ง 2 คนว่า ถ้าคับแค้นใจ และรู้สึกว่าพรรคก้าวไกลนั้นไม่เป็นธรรม ก็ขอให้ไปร้อง ป.ป.ช ว่าการกระทำของ น.ส.ไอซ์รัชนก นั้นขัดจริยธรรมหรือไม่ ซึ่งตนมั่นใจว่า ขัดจริยธรรมอย่างแน่นอน เพราะถ้าหากถูกกล่าวหามาตรา 112 นั้น มันขัดรัฐธรรมนูญในหมวด 2 มาตรา 6 แล้วยิ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วยแล้ว ควรจะต้องธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ แต่กลับทำผิดเสียเอง
“ผมขอย้อนกลับมาว่าเรื่องจริยธรรมที่คุณปารีณา ไกรคุปต์ โดนข้อหาครอบครองที่ดินพื้นที่ป่า ก็ย้อนหลังไปก่อนจะเป็น สส.คุณช่อ พรรณิการ์ วานิช สมัยรับปริญญา ก็มีคนเอารูปกระทำการมิบังควรไปร้อง ปปช. ก็ถูกตัดสิทธิ์การเมือง แล้วคราวนี้คุณไอซ์จะรอดได้อย่างไร นี่โดนข้อหามาตรา 112 แถมโดน พรบ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14 รอดยากมากๆ ผมก็ขอเตรียมแสดงความยินดีกับพี่วัน อยู่บำรุง พี่วันใจถึงพึ่งได้ ซึ่งคนบางบอนคงรู้อยู่แล้วว่าในวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมาเป็นการเลือกตั้งตามกระแส เลือกใครก็ไม่รู้มันมา มันผิด ก็คงต้องกลับไปเลือกพี่วัน อยู่บำรุง มาเป็น สส.อีกหรือไม่ ก็ตอนนี้พี่วันก็คงต้องหาเสียง แล้วผมก็ยินดีที่จะเชียร์พี่วัน อยู่บำรุง เพราะว่าเป็นพี่ที่น่ารัก“นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ตนกับคุณไอซ์ รัชนก ไม่เคยโกรธเกลียดกันมาก่อน และผมหรือหากคนในโซเชียลจะออกมาโจมตีหรือว่าตน ตนก็ไม่โกรธ ผมไม่เคยทำอะไรผิดอย่างที่เขาพูด ไม่ทำชั่วจะกลัวอะไร ตนไม่เคยกลัว แล้วคุณไอซ์ก็อย่ากลัว แต่คุณไอซ์กับผมเห็นต่างกัน แล้วเรามีความเชื่อต่างกัน คือเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมมีความเชื่อว่าประเทศไทยต้องธำรงไว้ซึ่งสถาบัน พระมหากษัตริย์ ต้องคงไว้ซึ่งคำว่าชาติไทย และสถาบันพระมหากษัตริย์ก็อยู่กับสังคมไทยมาโดยตลอด ฉะนั้นวันนี้ผมคิดว่า ไม่ควรเอาพระมหากษัตริย์ ลงมามายุ่งกับการเมือง สถาบันอยู่ของสถาบันตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหมวด 2 เขียนไว้ชัดอยู่แล้ว ยิ่งในมาตรา 6 ระบุไว้ชัดเจน ระบุว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้
“ผมก็คิดว่า เราในฐานะประชาชนคนไทยในชาติ ในประเทศไทยนั้น ต้องทำตามรัฐธรรมนูญมาตรา 50 คือต้องปกป้องศาสนาพระมหากษัตริย์จะไม่ให้ใครมาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองได้ ฉะนั้นผมกับคุณไอซ์มีความเชื่อต่างกันเรื่องนี้ ผมกับคุณไอซ์ก็เลยต้องมาทะเลาะกัน เพราะมีความเห็นที่ต่างกัน ผมจึงต้องออกมาพูดให้กับประชาชนคนไทยทั้งประเทศได้ฟังว่า เราควรจะจะต้องทำอย่างไร เราจะต้องปกป้องสถาบันอย่างไร แล้วเราควรจะแก้ปัญหากับคนเห็นต่างอย่างไร นั่นคือสิ่งที่ผมบอกว่าพวกเราคนไทยทั้งประเทศต้องช่วยกัน อย่างน้อยวันนี้ที่ผมออกมาพูดวันนี้ก็เพื่อให้ สส. แจ้ กับ สส. ปูอัด ได้รู้ช่องทาง และผมคิดว่าถ้า ปปช. ชี้มูลความผิดก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะเทียบเคียงจากคดีก่อนหน้านี้แล้ว เรื่องนี้ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก