นายกฯ ชมสาธิตโดรนเพื่อการเกษตร ฝีมือคนไทย เตรียมนำเทคโนโลยีต่อยอดใช้ทำการเกษตร เชื่อช่วยแบ่งเบาภาระ ประหยัดค่าใช้จ่าย และมีความแม่นยำมากขึ้น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ก.พ. ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรี ชมการสาธิตโดรนเกษตรไทยทำ TIGERDONE รุ่น TGD2 ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งเป็นโดรนที่นำมาสาธิตเป็นโดรนเพื่อการเกษตรฝีมือคนไทยที่เพิ่งได้รับรางวัล Good Design Award 2023 (G Mark) จากประเทศญี่ปุ่น วิจัย พัฒนา ผลิตโดยบริษัท HiveGround ของคนไทย ปัจจุบันมีการนำไปใช้งานทางด้านเกษตรแล้วหลายสิบลำ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรฯ นายอนุชา นาคาศัยร มช.เกษตรฯ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ร่วมรับชมด้วย
สำหรับ TIGERDONE รุ่น TGD2 ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานของเกษตรกรเป็นหลัก ทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ ที่ใช้ในการควบคุม และสั่งการโดรน เพื่อให้เกษตรกรสามารถทำการบินฉีดพ่นสารเคมีเกษตร บินหวานเมล็ดพันธุ์ และปุ๋ยรูปแบบเม็ด ได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวจากการที่เคยไปดูเรื่องบางกอกดีไซน์วีค เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไปเจอภาคเอกชนรายดังกล่าว ซึ่งดูแล้วมีความน่าสนใจ เพราะเป็นบริษัทที่ทำโดรนของไทยแท้ และได้รับรางวัลจำนวนมากจากทั่วโลก จึงสนใจให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำมาจัดแสดงในวันนี้ เพราะเห็นว่า ตรงกับนโยบายของรัฐบาล ที่ใช้เกษตรแม่นยำ และประหยัดแรงงาน เพราะปัจจุบันแรงงานภาคเกษตรขาดแคลน ดังนั้น การใช้เทคโนโลยีมาช่วยจะสามารถแบ่งเบาภาระให้เกษตรกร และประหยัดค่าใช้จ่าย มีความแม่นยำ ทั้งการให้ปุ๋ย ให้ยาฆ่าแมลง ลดภาวะสุ่มเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมี ซึ่งหลังจากนี้จะไปดูว่าจะนำไปต่อยอดใช้ทำการเกษตรอย่างไรบ้าง
วันเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin” ว่า “ปัญหา Productivity ในการเกษตรไทยเป็นเรื่องที่ต้องเอาเทคโนโลยีมาช่วย วันนี้เรามีตัวอย่างโดรนการเกษตร Tiger Drone ที่คิดค้นและผลิตโดยคนไทย ทำงานได้เร็วกว่าคน 5-10 เท่าตั้งแต่พ่นยา หว่านเมล็ด ที่จะมาทุ่นแรงเราได้มาก
กระทรวงเกษตรฯ จะทำหน้าที่ช่วยเหลือเป็น Match Maker เพื่อนำเทคโนโลยีดีๆ เหล่านี้เข้าไปให้ถึงมือเกษตรกรไทย เพิ่มรายได้ ลดต้นทุน พาให้เกษตรกรไทยกินดีอยู่ดีถ้วนหน้าครับ”