“ก้าวไกล” คาใจไฟไหม้ ก.เกษตรฯ หวังเอกสารสำคัญไม่เสียหาย ขอดูกล้องวงจรปิด สัญญาจัดซื้อจัดจ้างระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ข้องใจ รมช.บอกไฟฟ้าลัดวงจร แต่นายกฯ บอกเป็นเพราะซ่อมแอร์ ก็อยากจะเจอช่าง จะได้ชัดเจนเกิดจากอะไรแน่ เผย อธิบดีข้าวยังไม่ยืนยันชี้แจง กมธ. ส่วนอธิบดีฝนหลวงมาแน่ 15 ก.พ.หวังไม่มีปัญหาความจำสั้น ตอบคำถามได้
วันนี้ (5 ก.พ.) นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภา กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไฟไหม้ เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา จะมีผลต่อคณะกรรมาธิการติดตามงบฯ ที่จะเชิญอธิบดีกรมฝนหลวงมาชี้แจง ยังติดใจสงสัยประเด็นอะไร ว่า มีข้อกังวลว่าเอกสารที่ไหม้เป็นเอกสารที่มีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน สิ่งที่อยากฝากไปถึง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ขอดูกล้องวงจรปิดมีใครเข้าไปบริเวณนั้นหรือไม่ และในพื้นที่เก็บเอกสารปกติแล้วจะต้องผ่านระบบตรวจสอบความปลอดภัยถึงจะเข้าได้ ถ้าเป็นเอกสารสำคัญ แต่ถ้าไม่มีเอกสารสำคัญไหม้ก็คงจะไม่มีปัญหา
นอกจากนี้ ก็อยากดูสัญญาการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะว่าในหน่วยงานราชการจะมีระบบดับเพลิงอัตโนมัติ หรือระบบการแจ้งเตือนควัน มีการบำรุงรักษามากน้อยแค่ไหน มีการใช้งบประมาณมากแค่ไหน ความเสียหายที่เกิดขึ้นเหมาะสมกับงบประมาณที่ใช้ในการป้องกันหรือไม่ เอกสารที่เสียหายมีผลกับหน่วยงานฝนหลวงที่กำลังจะมาชี้แจงในวันที่ 15 ก.พ.หรือไม่ ท่านอธิบดีตอบรับแล้วจะมาชี้แจงเอง แต่อธิบดีกรมการข้าวขอดูคำถาม แต่ยังไม่ยืนยันว่าจะมา แต่เราก็หวังว่า จะมาชี้แจงเพื่อขจัดข้อสงสัยทั้งเรื่องของนายศรีสุวรรณ จรรยา จะได้เคลียร์ เราเชื่อว่า ข้าราชการทำงานจากภาษีประชาชนก็ควรจะได้รับการตรวจสอบจากผู้แทนที่มาจากประชาชน
นายกรุณพล กล่าวต่อว่า กรรมาธิการตั้งคำถามในเบื้องต้นแล้วว่าเราสงสัยในเรื่องใด หวังว่าคงโชคดีที่เอกสารสำคัญที่ต้องมาชี้แจงไม่ได้ไหม้ แต่ถ้าไหม้กันจริงๆ ก็ต้องไปไล่บี้กันเอาว่าเหตุใดจึงเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ตามที่ รมช.เกษตรฯ บอก และนายกฯ ก็บอกว่าไม่ใช่ไฟฟ้าลัดวงจร แต่เป็นช่างซ่อมแอร์ ถ้าเป็นช่างซ่อมแอร์ก็อยากเจอ และเอกสารหรือหลักฐานต่างๆ ที่ติดต่อช่างว่าจริงๆ แล้วมีช่างเข้าไปจริง หรือไฟฟ้าลัดวงจร หรือเกิดจากเหตุการณ์ใดกันแน่ ต้องมีตำตอบให้ประชาชน เพราะเป็นภาษีของพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า กรรมาธิการหนักใจหรือกังวลอะไร (กรณีกรมฝนหลวง) นายกรุณพล กล่าวว่า ไม่ค่อยหนักใจ เพราะเราก็มีเอกสารประมาณหนึ่งเหมือนกันที่มีลายเซ็นคำสั่งของอธิบดี รองธิบดี และเอกสารรายรับรายจ่าย เชื่อว่าแม้จะไม่มีเอกสารใด ถ้าอธิบดีไม่ได้มีปัญหาความจำสั้นก็น่าจะตอบคำถามกรรมาธิการได้ชัดเจน เพราะเวลาผ่านมาไม่ถึง 1 ปี และเป็นงบประมาณก้อนใหญ่หลาย 100 ล้านบาท ลายเซ็นก็ชัดเจน ถ้าตอบตรงไปตรงมาก็น่าจะตอบคำถามได้
“การที่กรรมาธิการตั้งข้อสงสัยไม่ได้หมายความว่า เกิดการทุจริต แต่ว่าเหตุใดจะต้องเป็นบริษัทนี้ เหตุใดต้องเป็นเครื่องบินสเปกนี้ เหตุใดจึงเป็นราคาเท่านี้ ได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและซ่อมบำรุงมากน้อยแค่ไหน เป็นการตั้งคำถาม เพื่อให้ใช้ภาษีของประชาชนเกิดประโยชน์สูงสุด ผมเชื่อว่า ต่อให้เราตั้งคำถามอย่างไร แต่ถ้ามีคำตอบที่โปร่งใสชัดเจน ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจสอบได้ผมว่าไม่มีปัญหา อย่าเพิ่งกังวลว่าการที่กรรมาธิการจะกลายเป็นผู้ผิดหรือผู้ทุจริต” นายกรุณพล กล่าว
