ย้อนรอย “ไชยา” สายมู ก่อนไฟไหม้ห้องทำงานในกระทรวงเกษตรฯ

นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมายังกระทรวงเกษตรฯ เพื่อตรวจความเรียบร้อยและดูความเสียหายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ พร้อมให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตํารวจพิสูจน์หลักฐานยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ นายไชยา กล่าวอีกว่า ไม่อยากให้นําไปโยงประเด็นทางการเมือง และกรณีที่สังคมตั้งคําถามว่าเป็นการเผาเพื่อทําลายหลักฐานสําคัญทางคดีต่างๆหรือไม่นั้น นายไชยา ยืนยันว่า ห้องที่ถูกเพลิงไหม้นั้นไม่มีเอกสารสําคัญใดๆทั้งสิ้น เพราะเอกสารสําคัญหรือเอกสารทางคดีต่างๆตนเองเป็นผู้เก็บไว้และทั้งหมดถูกเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์หรือคลาวด์ หากมีเอกสารคงเป็นเพียงเอกสารทั่วไป เช่นเอกสารการไปเปิดงานหรือกิจกรรมต่างๆเท่านั้น ส่วนกระแสข่าวลือว่ามีกระแสข่าวที่ว่านายศรีสุวรรณและเจ๋ง ดอกจิก เดินทางมาพบตนเองที่กระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง และไม่มีการยื่นร้องเรียนเรื่องกรมฝนหลวงและการบินเกษตรให้ นายศรีสุวรรณและเจ๋ง ดอกจิก แต่ยอมรับว่ามีเคสหนึ่งที่เข้ามายื่นเป็นลายลักษณ์อักษรแต่ผู้ร้องขอปกปิดชื่อและเอกสาร

หากมองย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 ดร.ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พระภูมิชัยมงคล ท้าวเวสสุวรรณ ศาลตายาย พระพิรุณทรงนาค เพื่อความสิริมงคล เวลาประมาณ 09.00 น. พร้อมนำ ฤาษี ที่ตนเองเครพ และศรัทธามาดูฤกษ์ยาม พร้อมจารเก้าอี้นั่งประจำตำแหน่ง โดย รมช.เกษตร ไชยา โดย ร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า รมว.เกษตร และสหกรณ์ได้มอบ ให้ กำกับดูแลใน 4 หน่วยงาน ได้แก่ กรมปศุสัตว์ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กรมหม่อนไหม และ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย กลิ่นปรับ ครม.ใกล้เข้ามาทุกที่ต้องตั้งตารอว่า มนต์ขลังของฤาษีจะปกป้องคุ้มครอง รมช.เกษตร ไชยาให้รอดพ้นจากการปรับออกจาก ครม.ครั้งนี้หรือไม่