xs
xsm
sm
md
lg

จากมันคือแป้ง ถึงล้างแอร์!! ไฟไหม้ ก.เกษตรฯ "ธรรมนัส" ด่วนสรุปเกินไปมุ้ย!? **ภารกิจใหม่และท้าทายของ"มาดามแป้ง"หัวใจรักฟุตบอลเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเสียงเชียร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**จากมันคือแป้ง ถึงล้างแอร์!! ไฟไหม้ ก.เกษตรฯ "ธรรมนัส" ด่วนสรุปเกินไปมุ้ย!?

ไฟไหม้กระทรวงเกษตรฯ ในจังหวะที่มีประเด็นฉาวโฉ่ ทั้ง คดีหมูเถื่อน-ตีนไก่เถื่อน โครงการเครื่องบินฝนหลวง มาจนถึงคดี "พี่ศรี" ศรีสุวรรณ จรรยา "เจ๋ง ดอกจิก" ยศวริศ ชูกล่อม และพวก ถูกกล่าวหา "ตบทรัพย์" อธิบดีกรมการข้าว ทำให้ชาวบ้านชาวช่องอดสงสัยไม่ได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับเรื่องฉาวๆ หรือไม่ ?

ฟังว่า "ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้โทรศัพท์รายงาน "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และรมว.คลังว่า สาเหตุเป็นเรื่องของการ "ล้างแอร์" ไม่ได้มีอะไรเสียหายมาก รวมไปถึงเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่จะเชื่อมโยงประเด็นที่มีปัญหาในกระทรวง โดยนายกฯ ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาเบื้องต้นก็เชื่อตาม “ธรรมนัส”ว่า ไม่มีอะไรน่าสงสัย

ขณะที่ "ไชยา พรหมา" รมช.เกษตรฯ บอกว่าจุดที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ห่างจากห้องทำงานตัวเองประมาณ 30 เมตร ทำให้ไม่มีเอกสารสำคัญใดเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ แต่ห้องได้รับผลกระทบจากน้ำที่ใช้ระหว่างดับเพลิง ซึ่งก็ไม่มีเอกสารใดที่เป็นเอกสารสำคัญ เป็นเพียงเอกสารที่ใช้ในการตรวจตราลงพื้นที่เท่านั้น

ส่วนประเด็นที่สงสัยกันว่า สาเหตุเพลิงไหม้เพราะมีใครต้องการเผาทำลายหลักฐานหรือไม่? “รมช.ไชยา” ยืนยันกรณี “พี่ศรีและเจ๋ง” ตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวเอง เพราะไม่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกรมการข้าว หากเป็นประเด็นที่ “ศรีสุวรรณ” มาร้องเรียน การจัดซื้อเครื่องบินฝนหลวง ประเด็นนี้ตัวเองจึงได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลในส่วนบริหารและนโยบาย แต่ไม่มีส่วนกับการดูแลเงินงบประมาณ ที่พี่ศรีตั้งข้อสงสัย

พูดไปทำไมมี? เรียกว่า ไม่เกี่ยวคดีตบทรัพย์ แต่ก็ยังมีเรื่องจัดซื้อเครื่องบินฝนหลวง แต่ “ไชยา” ก็ยังมั่นใจว่า ตั้งแต่มาทำงานในช่วงระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา มีการคดีปราบปรามหมู เนื้อ และ ตีนไก่เถื่อน ตัวเองก็พอจะรู้มาบ้างว่า จะต้องเจอกับอะไร? แต่ตัวเองเป็น "หมูไม่กลัวน้ำร้อน" ใครก็ทำอะไรตนไม่ได้

อย่างว่า นาทีนี้ กระทรวงเกษตรฯ ร้อนแรงเรื่องฉาวโฉ่ ใครๆ ก็ยากจะเชื่อได้ว่า ไฟไหม้เป็นเหตุโดยธรรมชาติ!

ยิ่งตอนนี้ในข้อเท็จจริงในการสอบสวน ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น สาเหตุเพลิงไหม้ ไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายห้องต้นเพลิงทั้งหมด 

“พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ” ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) ระบุว่า เบื้องต้นนำเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเคมีและฟิสิกส์ เข้าเก็บพยานหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุ รวมถึงสอบปากคำแม่บ้าน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เห็นกลุ่มควันเป็นกลุ่มแรก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าไปดับไฟ เพื่อหาแหล่งต้นเพลิงให้การตรงกันว่า ห้องต้นเพลิงอยู่ที่บริเวณห้องครัว แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่า สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร จากอุปกรณ์ใดหรือไม่ รวมไปถึง ห้องที่ถูกเพลิงไหม้ มีการเก็บเอกสารสำคัญด้วยหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ ต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดด้วยเช่นกัน

งานนี้ คำพูดต้องย้อนมากล่าว

สังคมไม่เชื่อว่า ไฟไหม้ไม่มีอะไร เพราะ ทำไมมาเกิดเรื่องในช่วงที่มีความสงสัยในเรื่องของการทุจริต คอร์รัปชันในกระทรวงพอดี ? ซึ่งใครๆ ก็รู้ดีว่า กระทรวงเกษตรฯ เป็นกระทรวงที่มีข้อครหาในการทุจริตคอร์รัปชั่นมายาวนาน แตะตรงไหนก็เป็นขุมทรัพย์ของนักการเมืองทั้งนั้น ทุกยุคทุกสมัย

มาถึง สมัยนี้ รมว.ที่ชื่อ "ธรรมนัส" ที่โด่งดังจากคำพูดในการอภิปรายในสภา ตอบโต้ข้อครหาว่า "มันคือแป้ง" คำตอบที่ด่วนสรุปว่า เหตุเพลิงเผาผลาญกระทรวงเกษตรฯ มาจาก "ล้างแอร์" ไม่เกี่ยวกับเผา "ล้างหลักฐาน" ถามใจดูกันได้เลยว่า ยอมเชื่อ “รมว.ธรรมนัส” ได้หรือไม่ ?


** ภารกิจใหม่และท้าทายของ"มาดามแป้ง"หัวใจรักฟุตบอลเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเสียงเชียร์

ได้ชื่อว่าเป็น "หญิงเหล็ก" ของวงการฟุตบอลไทย และไอดอลของผู้หญิงรุ่นใหม่หลายๆคน สำหรับ “มาดามแป้ง“ นวลพรรณ ล่ำซำ

แทบไม่ต้องบรรยายเลยว่า “มาดามแป้ง” มีส่วนสำคัญอย่างไรกับวงการฟุตบอลไทยยุคใหม่ ดังจะเห็นจากข้อความที่เธอโพสต์ในวาระอำลาตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตบอลชาติไทย ที่ทำหน้าที่มากว่า 890 วัน

"มาดามแป้ง" นั้นได้ระบุว่า "วันที่ 23 สิงหาคม 2564 เป็นวันที่แป้งจำไม่เคยลืม วันแรกที่แป้งเข้ามารับตำแหน่ง ผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดใหญ่ และU-23 ซึ่งนับเป็นภารกิจสำคัญในเส้นทางการเดินทางสายฟุตบอลกว่า 16 ปีของแป้ง เพราะต้องยอมรับว่า ฟุตบอลชายทีมชาติไทย เป็นสิ่งที่รวมใจคนทั้งชาติ เต็มไปด้วยความคาดหวัง

ยิ่งประกอบกับโจทย์วิกฤติศรัทธาฟุตบอลไทยด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นเรื่องท้าทายมาก แป้งต้องขอขอบคุณ “พี่อ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่เชื่อมั่น และไว้ใจให้แป้งมาทำงานสำคัญนี้ ซึ่งตลอดเวลา 890 วัน ที่ผ่านมา แป้งเชื่อว่าแป้งได้ทุ่มเททำทุกอย่างสุดความสามารถของแป้ง เท่าที่คนรักฟุตบอลไทยคนหนึ่งจะทำได้

890 วันนี้ นับเป็นประสบการณ์อันทรงคุณค่าที่มาพร้อมความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ในการดูแลสิ่งที่เป็นของคนไทยทั้งชาติ แป้งได้เรียนรู้มากมายจากการรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย เพื่อนำมาปรับใช้ด้วยจุดมุ่งหมายเดียว คือทำให้ “ทัพช้างศึก” ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม และเข้มแข็งกว่าเดิม"

ดังนั้น การได้เห็นทีมชาติไทยเป็นแชมป์อาเซียน 2 สมัย และผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เอเชียนคัพ 2023 ที่กาตาร์ ด้วยผลงานรอบแบ่งกลุ่มดีที่สุดในประวัติศาสตร์ จึงทำให้แป้งดีใจ และภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนฟุตบอลไทย

แน่นอนว่า แป้งไม่สามารถทำทั้งหมดนี้ได้คนเดียว แต่ต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจาก #TeamThailand ทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา ผู้ฝึกสอน สโมสร รวมไปถึงพันธมิตร ทั้งในและนอกวงการ ที่ได้เสียสละแรงกายใจ เวลา เงินทุน ในการร่วมทำงานใหญ่ระดับชาตินี้ให้เป็นไปด้วยดี สำคัญที่สุด “ผู้เล่นคนที่ 12” นั่นคือ แฟนบอลไทยที่เป็นกำลังใจอันยิ่งใหญ่ของพวกเราในการทำงาน และการลงแข่งขันทุกนัด แป้งขอกราบขอบพระคุณทุกท่านจากหัวใจ

วันนี้ เป็นวันที่แป้งต้องขออำลาจากตำแหน่ง “ผู้จัดการทีม” ที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันทรงคุณค่านี้ เพื่อขอโอกาสในการช่วยผลักดันวงการฟุตบอลไทยในทุกมิติ ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้ง “นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย” ซึ่งไม่ว่าผลลัพธ์ในวันที่ 8 ก.พ.นี้ จะเป็นเช่นไรก็ตาม แป้งก็ขอยืนยันในความตั้งใจ และสัญญาว่า ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทใดก็ตาม แป้ง จะทุ่มเทความรู้ ความสามารถทั้งหมดที่มีให้กับวงการบอลไทย เพื่อร่วมสร้าง และพัฒนา #TeamThailand ให้ดีขึ้นในทุกๆวัน
ด้วยรักและศรัทธาในบอลไทยเสมอและตลอดไป"

นี่เป็นข้อความของผู้หญิงที่ทำงานด้วยหัวใจรักฟุตบอลโดยไม่ต้องสงสัย จากนี้ไปจะเป็นภารกิจใหม่ที่ใหญ่ขึ้น และท้าทายขึ้นสำหรับ “มาดามแป้ง”

แน่นอนว่า ชีวิตก็เหมือนกับเกมกีฬาย่อมมีปัญหา มีอุปสรรคให้ฝ่าฟันระหว่างลงเล่น ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่า เสียงตอบรับและแรงเชียร์จากแฟนๆ ฟุตบอลไทยพร้อมจะเป็นกำลังใจให้ "มาดามแป้ง" แน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น