“ธนกร” เผย กมธ.พัฒนาการเมือง เรียกผู้จัดอบรม 5 หลักสูตรดังชี้แจงความคุ้มค่า ชี้ งบประมาณเหมาะสม ยัน ทุกหลักสูตรมีประโยชน์ต่อยอดพัฒนาประเทศได้ทุกด้าน มั่นใจกระบวนการยุติธรรม ไม่มีเอื้อประโยชน์วิ่งเต้นคดีให้เพื่อนร่วมรุ่น มองเป็นเรื่องดี “พริษฐ์” นำ ปชช.ร่วมตรวจสอบให้โปร่งใส
นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวในการประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ว่า เป็นเรื่องที่ดีที่คณะกรรมาธิการชุดนี้ ได้เชิญผู้จัดทำหลักสูตรอบรมบุคลากรหลายหน่วยงานเข้ามาชี้แจง ประกอบด้วย เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการการการเลือกตั้ง เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ผู้อำนวยการวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถึงการใช้งบประมาณ และตนเชื่อว่า ทุกหลักสูตรเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ไม่เคยสงสัยเรื่องเนื้อหาและงบประมาณ เพราะคิดว่า มีความสมเหตุสมผลอยู่แล้ว ซึ่งตนเองได้ร่วมอบรมบางหลักสูตร มีความเข้มข้นทั้งเรื่องการคัดเลือกบุคคล การอบรมและการเข้าเรียน โดยก็พบว่า สส.หลายคนหลายพรรคที่เข้าร่วมหลักสูตร หากไม่ได้เข้าเรียนครบตามเกณฑ์ ก็ไม่ผ่านการอบรม
เมื่อถามว่า คนอาจมองว่าการสร้างสัมพันธ์ หรือคอนเนกชันผ่านหลักสูตรต่างๆ มักจะไปในแนวทางเอื้อประโยชน์ ช่วยวิ่งเต้นช่วยเรื่องคดีนั้น นายธนกร กล่าวว่า ในส่วนที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานคณะกรรมาธิการและสังคมฯ ตั้งข้อสังเกตถึงความเสี่ยงที่ผู้เข้าอบรม ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ เช่น ศาล อัยการ เข้ามาเรียนร่วมกับภาคเอกชนด้วย อาจทำให้เอื้อประโยชน์ในการตรวจสอบนั้น ตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ว่า มีการตรวจสอบตามหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่ใช่การไปเรียนร่วมรุ่นในหลักสูตรต่างๆแล้วจะทำให้สามารถวิ่งเต้นคดีได้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่คน ไม่ใช่หลักสูตรหรือหน่วยงานองค์กร คนจะวิ่งเต้นคดีมันก็วิ่งเต้นไม่เกี่ยวกับหลักสูตร ยืนยันว่า ทุกหลักสูตรเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ อยากให้ดำเนินการต่อไป และเปิดกว้างให้สามารถตรวจสอบทุกหลักสูตรได้ ตามที่นายพริษฐ์ ประธานกรรมาธิการฯและประชาชนตั้งข้อสังเกตเพื่อให้เกิดความครบถ้วน รอบคอบ โปร่งใส ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
“ทุกหลักสูตรมีความเสมอภาค บางหลักสูตร ขณะที่ผมสมัครเรียนตอนเป็นรัฐมนตรี ยังไม่ผ่านการคัดเลือกเลย แสดงว่า ทุกหลักสูตร มีการพิจารณาบุคคลเข้าอบรมมีความเข้มข้น ดูองค์ประกอบหลายอย่าง จึงมีความเชื่อมั่นในการคัดเลือกคัดกรองบุคคล แต่การจะมาช่วยวิ่งเต้นคดีนั้นเป็นไปไม่ได้เลยยกตัวอย่างในอดีตบางคนที่ไปเรียนหลายหลักสูตรพบว่าไปทุจริตเป็นข่าวดังทั้งประเทศ ก็ไม่มีใครกล้าช่วยเรื่องคดีเลย ซึ่งผมเห็นว่าทุกฝ่ายควรรับข้อเสนอของกรรมาธิการชุดนี้ไปพิจารณาด้วยเพื่อให้เกิดการตรวจสอบ ให้ความรอบคอบ โปร่งใส” นายธนกร กล่าว