xs
xsm
sm
md
lg

“พิธา” รอศาล รธน.ชี้ขาดนโยบายแก้ไข ม.112 ก่อนเคาะผลักดันต่อหรือไม่ โบ้ยอย่างสร้างกำแพงกั้นสมานฉันท์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พิธา” รอศาล รธน.ชี้ขาดนโยบายแก้ไข ม.112 ก่อนเคาะจะผลักดันต่อหรือไม่  อ้าง 17 ปีที่ผ่านมา เกิดขัดแย้งการเมือง ปีนี้จะเริ่มต้นใหม่ ขออย่าสร้างกำแพงทำโอกาสสมานฉันท์ลดลง

วันนี้ (26 ม.ค.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลจะยังผลักดันอยู่อีกหรือไม่ ว่า คงต้องรอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ 31 ม.ค.นี้ จึงยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ชี้แจงว่า การนิรโทษกรรมนั้น ในส่วนบุคคลที่โดน มาตรา 112 จะถูกตั้งคณะกรรมการพิจารณาเป็นรายๆ ไป แต่พรรคการเมืองอื่นไม่ให้นับรวมมาตรา 112 ในนิรโทษกรรมเลย นายพิธา กล่าวว่า ข้อเสนอของนายรังสิมันต์ เหมือนพบกันครึ่งทาง แต่ของพรรคก้าวไกล คือ การนิรโทษกรรมต้องรวมมาตรา 112 ด้วย วานนี้ (25 ม.ค.) ตนเจอนายรังสิมันต์ มัวคุยแต่เรื่องลูกสาว ไม่ได้คุยเรื่องานเท่าไหร่ เลยยังไม่สามารถคอนเฟิร์มได้

“ในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา ในช่วงขัดแย้งทางการเมือง ปีนี้เป็นปีเริ่มต้นใหม่ อย่าให้มีการสร้างกำแพงขึ้นมา จะทำให้สร้างโอกาสสมานฉันท์ลดลง ถ้ามีเงื่อนไขใหม่เกิดขึ้น ควรมีวิธีการบริหารจัดการความขัดแย้งทางการเมือง ในหลายรูปแบบได้รับการจัดการอย่างครบถ้วน”

เมื่อถามว่า อุปสรรคใหม่ของการนิรโทษกรรม ยังอยู่ที่มาตรา 112 มีหลายกรณี พรรคก้าวไกลจะขับเคลื่อนบทบาทอย่างไรในการช่วยเหลือมวลชนเป็นการเฉพาะ นายพิธา กล่าวว่า ตนมีการติดตามสถานการณ์อยู่ต่อเนื่อง และได้รับการอัปเดตเสมอ เรื่องนี้พรรคก้าวไกลคงไม่ทิ้ง เรื่องการแสดงออกทางการเมือง เป็นการหาทางออกร่วมกันของประเทศชาติ ว่า การทำให้เราเป็นระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น ควรออกมาทิศทางไหน ถ้าแต่ละทิศทางที่ออกมา โดยเฉพาะการเกิดขึ้นกับเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีหลายสิบคน เป็นสิ่งที่เหมาะสมกับไทยในสากลโลกในปัจจุบันนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น