‘วีรนันท์’ สส.ก้าวไกล ถาม ‘เพื่อไทย’ ถึงแนวทางนิรโทษกรรมคดีการเมือง ชี้ ถึงเวลาทุกฝ่ายพูดคุยในสภาฯ หาทางออก
วันนี้ (19 ม.ค. 67) นายวีรนันท์ ฮวดศรี สส.ขอนแก่น เขต 1 พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นถึงกรณีการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง หลังเมื่อวานนี้ ศาลจังหวัดเชียงรายอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ลงโทษจำคุก มงคล ถิระโคตร หรือ ‘บัสบาส’ นักกิจกรรมในจังหวัดเชียงราย เป็นเวลารวม 50 ปี
นายวีรนันท์ กล่าวว่า โทษจำคุก 50 ปี ถือเป็นโทษสูงสุดที่ศาลได้พิพากษาความผิดตามมาตรานี้ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จะหารือเพื่อหาทางออกของปัญหาความขัดแย้งเหล่านี้ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคดีที่อยู่ในศาล หลายคดีที่อยู่ชั้นตำรวจ และอีกหลายคดีที่จบไปแล้ว มูลเหตุจูงใจของการกระทำมาจากมูลเหตุทางการเมือง ก็ควรใช้การเมืองคลี่คลายและหาทางออกของสถานการณ์นี้ เป็นโอกาสเหมาะที่จะนำวาระเรื่องนี้เข้ามาถกเถียงในพื้นที่ของรัฐสภา
ช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 2566 หลายพรรคมีความเห็นเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมือง ซึ่งขณะนั้นโดยหลักการมองไปทิศทางเดียวกัน ตนจึงขอย้อนเตือนความจำและฝากคำถามไปยังพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาล 2 ข้อว่า
(1) จะเอาอย่างไรกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมือง พรรคเพื่อไทยจะยื่นหรือไม่
(2) หากยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมือง พรรคเพื่อไทยจะยื่นเมื่อไหร่ และมีแนวทางต่อเรื่องนี้อย่างไร
นายวีรนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะพูดคุยเรื่องการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมืองอย่างจริงจัง และใช้พื้นที่สภาฯ ร่วมกันพิจารณากฎหมายเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น เนื่องจากการตัดสินโทษที่เกิดขึ้นถูกตั้งคำถามอย่างกว้างขวาง
"ผมและพรรคก้าวไกลยังคงรอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมืองจากทางพรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลที่จะยื่นเข้ามาในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาเนื้อหารายละเอียด และถอดสลักความขัดแย้งทางการเมืองไทยไปด้วยกัน" นายวีรนันท์ กล่าว
นายวีรนันท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองไม่อาจทนเห็นผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง ที่ใช้เสรีภาพในการแสดงออกต้องเดินเข้าคุกและจากไปทีละคน และหากไม่มีความชัดเจนเรื่องการนิรโทษกรรม เมื่อวันนั้นมาถึงก็สายเกินกว่าจะมาคุยกันในเรื่องนี้แล้ว