นายกฯ สั่ง 3 กระทรวง เร่งรัดให้คนได้สัญชาติ รับสิทธิทางกฎหมาย ยัน ”แลนด์บริดจ์“ สร้างความเจริญให้ภาคใต้ พร้อมศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม รับฟังฝ่ายคัดค้าน
เมื่อเวลา 11.25 น. วันที่ 23 ม.ค. ที่หอประชุมคอซู้เจียง ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ว่า ในการลงพื้นที่ตรวจราชการเมื่อวันที่ 22 ม.ค. ตนได้ไปดูท่าเรือระนอง - เกาะสอง โดยมีการอนุมัติปรับปรุงท่าเรือท่องเที่ยว และการขนส่งให้ดีขึ้น รวมถึงการพัฒนาท่าเรือให้เป็นวันสต็อปเซอร์วิสเพื่อให้นักธุรกิจและประชาชนทำมาค้าขายได้สะดวกยิ่งขึ้น และยังได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงแรงงาน เร่งรัดให้คนได้มีสัญชาติและพิสูจน์สิทธิให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อรับสิทธิขั้นพื้นฐานทางกฎหมาย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยได้ลงพื้นที่ตรวจการก่อสร้างสะพานข้ามคลองอ่าวเขาควายบนเกาะพยาม เพื่อช่วยเด็กนักเรียนในการเดินทาง สร้างสะพานให้เด็กนักเรียนชาวมอแกนสามารถเดินทางไปโรงเรียนได้สะดวก
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ตนได้ไปดูจุดก่อสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ ทำให้จ.ระนองและจ.ชุมพรเจริญมากยิ่งขึ้น มีการสร้างงาน สร้างรายได้ พร้อมศึกษาทางด้านสิ่งแวดล้อม และยังได้รับหนังสือร้องเรียนจากฝ่ายที่ไม่เห็นชอบกับการก่อสร้างโครงการ ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกันต่อไป และภารกิจสุดท้ายตนไปดูบ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน ที่บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน เพื่อส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แต่ยังมีบางเรื่องที่ยังขาดอยู่ เช่นเรื่องการประชาสัมพันธ์ประโยชน์ของบ่อน้ำพุร้อนคืออะไร มีสารอะไรบ้างที่ให้คุณประโยชน์กับร่างกาย ซึ่งตนได้สั่งการให้สั่งการให้การท่อแงเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปทำการบ้านเพิ่มเติมมา