นายกฯโพสต์ปลื้มใจชาวระนองต้อนรับและหนุนLandbridge ย้ำคือโอกาสคนไทยทั้งประเทศ ยกระดับใต้ประตูการค้านำเข้า-ส่งออก เจริญขึ้นมหาศาล ประมงยังหาปลาได้ ยันศึกษารอบคอบ ไม่มีเมกะโปรเจกต์มานานธรรมดามีทั้งหนุน-ค้าน พร้อมพลิกฟื้นอาชีพประมง ยกระดับมาตรฐานท่าเรือ
วันนี้ (22ม.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดระนอง มีเนื้อหาดังนี้
ไหว้ศาลหลักเมือง และอนุสาวรีย์พระยาดํารงสุจริต มหิศรภักดี (คอซู่เจียง) เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนเริ่มภารกิจที่ จ.ระนองครับ
ดีใจที่พี่น้องชาวระนองมารอต้อนรับ และดีใจเป็น 2 เท่าที่พี่น้องเข้าใจสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำ หลายคนบอกผมว่า พื้นที่ต้องการโครงการ Landbridge และขอให้รัฐบาลเดินหน้าเต็มที่เพื่อพัฒนาระนอง ผมบอกเลยว่า นั่นเป็นสิ่งที่เราตั้งใจทำเพื่อพี่น้องชาว จ.ระนองครับ
ต่อมานายเศรษฐาได้โพสต์อีกว่า ผู้แทนชาวประมงที่ท่าเรือระนอง - เกาะสอง เล่าให้ฟังถึงปัญหาในหลายมิติ รัฐบาลยินดีสนับสนุนการปรับยกระดับมาตรฐานท่าเรือตรงนี้ขึ้น พร้อมเสริมการค้าชายแดน ขั้นตอนด่านศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองให้รวดเร็ว เพื่อให้พี่น้องค้าขายได้มากขึ้นครับ
นี่คือหนึ่งในการพลิกฟื้นอาชีพประมงไทย เพราะ 9 ปีที่ผ่านมากฎหมายประมงไม่ตรงกับแนวทางปฏิบัติจริง ผู้ประกอบการประมงรายเล็ก กว่า 20,000 ราย ต้องเลิกกิจการไป รัฐบาลจึงได้ปรับ พรบ. ประมงเพิ่มเติมฯ เพื่อทำให้ประมงไทยกลับมามีรายได้และส่งออกได้มากขึ้น คนไทยได้ทานอาหารทะเลที่มีคุณภาพและราคาถูก อนุรักษ์ทะเลได้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันก็เคารพในกติกาสากลที่เป็นธรรมและเท่าเทียม ดูแลคุ้มครองแรงงานไม่ให้ผิดหลักมนุษยชน และทำให้สินค้าประมงจากไทยโปร่งใสตรวจสอบได้ครับ
นายเศรษฐาโพสต์ต่ออีกว่า Landbridge คือโอกาสของภาคใต้และคนไทยทั้งประเทศครับ
ความตั้งใจของผม คือการยกระดับให้ภาคใต้เป็นประตูการค้านำเข้า-ส่งออกของไทย เชื่อมเอเชียกับเวทีการค้าโลกครับ โครงการ Landbridge ที่เชื่อมอ่าวไทยกับอันดามัน เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ทำให้ภาคใต้เจริญขึ้นมหาศาล เป็นศูนย์กลางการขนส่งที่เชื่อมโยงไปทั่วประเทศ ถนน โรงเรียน โรงพยาบาลจะเกิดการขยาย รองรับทั้งคนในพื้นที่และคนที่จะมาทำงาน ภาคธุรกิจ เอกชน และภาคบริการจะเข้ามาลงทุนประกอบกิจการในพื้นที่ด้วย จะมีการจ้างงานจำนวนมาก ร้านค้าขายของให้คนที่เข้ามาได้เยอะขึ้น พี่น้องชาวประมงก็ยังหาปลาได้ เพราะเราจะทำตอม่อบริเวณสะพานท่าเทียบเรือตามที่ สนข. ได้ศึกษามา
ประเทศไทยไม่มีเมกะโปรเจกต์มานานหลายสิบปี เป็นธรรมดาที่จะต้องมีทั้งคนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องรับฟังความเห็นของประชาชน โดยเรามีการศึกษาทุกด้านอย่างรอบคอบ ผมเห็นว่าทุกอย่างต้องพัฒนาควบคู่กันไป ทั้งเศรษฐกิจ ความเจริญก้าวหน้าของประเทศ การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อมครับ