นายกฯ ร่วมทำแนวกันไฟป่ากับเครือข่ายประชาชน เผย บ่ายนี้ ยกหูด่วนคุย “ฮุน มาเนต” ร่วมมือแก้ไฟป่า-หมอกควัน หลังพบฮอตสปอตในเพื่อนบ้านมากกว่าไทย แต่อย่าใช้เพื่อนบ้านเป็นข้ออ้าง ต้องพยายามแก้ปัญหาต่อไป เพราะเราเป็นพี่ใหญ่เครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่า
เมื่อเวลา 11.24 น.วันนี้ (11 ม.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้เดินทางไปเยี่ยมชมจุดจอดอากาศยานกรมฝนหลวงและการบินเกษตรกองบิน 41 ติดตามการปฏิบัติการฝนหลวง แก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5 จ.เชียงใหม่ โดยนายกฯ สอบถามด้วยความสนใจ รวมถึงขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เสียสละในการทำงาน
ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขึ้นไปเยี่ยมชมระบบการทำงานและความพร้อมของเฮลิคอปเตอร์ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ก่อนที่นายกฯ จะเดินลงมาพูดคุยกับนักบินผู้บังคับอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่งนายกฯ ได้สอบถามว่า เรามีเครื่องบินที่ใช้ปฏิบัติการกี่ลำ โดยเจ้าหน้าที่ฯ ตอบกลับว่า ที่จังหวัดเชียงใหม่มี 1 ลำ ที่เหลืออยู่ที่จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดอื่นๆ
นายกฯ จึงให้ข้อแนะนำไป ว่า ตนไม่ได้สั่งการ แต่ขอแนะนำว่า สถานการณ์ไฟป่าที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงพื้นที่ภาคเหนือและพื้นที่ภาคอีสานค่อนข้างที่จะเกิดขึ้นเยอะ ควรจะโยกเครื่องบินมาที่นี่มากขึ้นหรือไม่ ก็ขอฝากพิจารณาไม่ได้เป็นคำสั่ง เพราะท่านมีข้อมูลและรู้มากกว่าตน
จากนั้น นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ มอบหมวกที่ระลึกของกรมฝนหลวง พร้อมถ่ายภาพหมู่ร่วมกับเจ้าที่ที่ปฏิบัติ การฝนหลวงแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ปี 2567
จากนั้นเวลา 12.00 น นายเศรษฐา พร้อมคณะ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาจุดความร้อนพื้นที่ภาคเหนือ และการทำแนวกันไฟ ที่ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการควบคุมที่บ้านภาคเหนือ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่
โดยมี นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและ พันธ์ุพืช รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานป้องกันไฟป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ปี 2567 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ด้วย
นายกรัฐมนตรี ได้สอบถาม นายปกรณ์ อาภาพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ถึงความร่วมมือทางเทคโนโลยีสารสนเทศกับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะประเทศกัมพูชา เรื่องของการป้องกันการเผาที่มีผลต่อหมอกควันและค่าฝุ่นละออง หลังผู้อำนวยการ GISTDA ได้ฉายภาพดาวเทียมที่ตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลก หรือจุดฮอตสปอตในรอบ 20 ปีที่ผ่าน ซึ่งพบว่าจุดความร้อนพบในประเทศเพื่อนบ้านมากกว่าประเทศไทย โดยนายกฯ กล่าวว่า ตนจากโทรศัพท์พูดคุยกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งในวันที่ 7 ก.พ.คอยไม่ได้ เดี๋ยวบ่ายวันเดียวกันนี้ ตนจะโทรศัพท์หาท่านเองเลย
จากนั้น นายกฯ กล่าวมอบนโยบาย ว่า ขอบคุณที่ทุกคนทุ่มเทและเอาใจใส่นำปัญหานี้มาเป็นปัญหาหลัก ในการที่เราจะต้องทำงานกันอย่างบูรณาการ ซึ่งตนได้มีการพูดคุยกันในส่วนของฝั่งประเทศของเราโดยทุกฝ่ายทำงานกันอย่างเต็มที่ แต่ในเรื่องของประเทศเพื่อนบ้านไม่อยากให้เอามาเป็นเหตุผลในปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะเราเป็นพี่ใหญ่ เพราะเรามีเทคโนโลยีและทรัพยากรเยอะกว่า เราต้องพูดคุยกับเขาได้ ซึ่งการลงรายละเอียดเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตนและกระทรวงการต่างประเทศจะไปพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะถือเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันแก้ปัญหานี้ เพราะเราคือทีมไทยแลนด์ที่จะช่วยกันแก้ปัญหา ขณะที่การใช้ยุทโธปกรณ์อย่างไรก็ไม่พอ ซึ่งตนก็เข้าใจ ทุกกรมในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตนคิดว่ายุทโธปกรณ์สามารถโยกย้ายไปใช้ตามความจำเป็นได้ อย่าง 3-4 เดือนข้างหน้า พื้นที่นี้จะต้องเฝ้าระวังอย่างมาก ก็ขอฝากให้ดูแล เรื่องการโยกย้ายยุทโธปกรณ์ด้วยแล้วกัน ซึ่งอยู่ในความดูแลของท่านๆก็คงจัดการได้ แต่หากไม่ได้อยู่ในความดูแลก็สามารถปรึกษากับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ โดยผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยตนได้ให้นโยบายไปชัดเจนว่าเราต้องช่วยเหลือกัน
นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ตนจะโทรศัพท์ไปพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่า เรื่องนี้จะต้องช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ บางครั้งเราทำงานกันหนักมากก็อาจจะลืมเรื่องของความปลอดภัย ฝากให้ผู้บังคับบัญชาไปดูแลเรื่องความปลอดภัย และเรื่องยุทโธปกรณ์ต้องมีการซ่อมบำรุงให้ดีดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของคนทำงานทุกคน เพราะเรื่องความปลอดภัย ชีวิตความเป็นอยู่และชีวิตจิตใจของเจ้าหน้าที่เป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ไม่ใช่วิ่ง 100 เมตรแต่เป็นการวิ่งมาราธอน ก็ขอขอบคุณที่ตั้งเป้าหมาย ให้ฮอตสปอตลดลง 50% ซึ่งผ่านมา 10 วันแล้วก็ถือว่าดีขึ้นเยอะ ทั้งนี้ เราจะพยายามกันต่อไป และประสานงานกันอย่างใกล้ชิด และขอบเขตงานก็ดูแลกันอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามขอขอบคุณกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่จัดงานในวันนี้
ต่อมานายกฯ เดินชมนิทรรศการการเตรียมความพร้อมป้องกันไฟป่าและหมอกควันปี 2567 ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการนำวัสดุเหลือใช้ เช่นฟางข้าว ข้าวโพด ซึ่งเหลือใช้ทางการเกษตร มายังจุดรับซื้อ เพื่อลดการเผาไม่ให้เกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ก่อนจะร่วมทำแนวกันไฟป่ากับเครือข่ายภาคประชาชน และเยี่ยมชมรถสนามเคลื่อนที่ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช