เชียงใหม่ - นายกฯ "เศรษฐา" ตรวจติดตามสถานการณ์ปัญหาฝุ่นควันภาคเหนือ เน้นย้ำทุกหน่วยงานต้องบูรณาการทำให้ดีขึ้นและรายงานผลทุกวัน พร้อมดูแลประชาชนให้ดีที่สุด
วันนี้ (11 ม.ค. 67) ที่ศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการควบคุมไฟป่าภาคเหนือ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ เป็นประธานประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์แก้ปัญหาฝุ่นควัน ไฟป่าพื้นที่ภาคเหนือ โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความร่วมมือกัน ทั้งนี้ ให้ยึดหลักแนวทางการดำเนินงานว่าสถานการณ์ต้องดีขึ้นทุกวัน ด้วยการทำหน้าที่อย่างจริงจัง ขอให้ท่านแบ่งหน้าที่ และพื้นที่รับผิดชอบ X-Ray พื้นที่ในความรับผิดชอบของท่านว่ายังมีปัญหาที่ใดและรีบแก้ไขโดยเร่งด่วน และรายงานให้ทราบทุกวัน ถ้าไม่ดีกว่าเดิมต้องแจ้งด้วยว่าเพราะอะไร มีอุปสรรคอะไร เพราะอยากคืนอากาศบริสุทธิ์แก่พี่น้องประชาชนภาคเหนือให้เร็วที่สุด
ขณะที่การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า ต้องมีแนวทางการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว เพื่อความยั่งยืน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน ถูกต้อง แม่นยำ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปด้วยความรวดเร็ว นอกจากนี้ การดูแลพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะปัญหาด้านสุขภาพ ขอให้จังหวัดและทุกส่วนราชการ โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดูแลประชาชนให้ครอบคลุมทุกมิติ เช่น เรื่องสุขภาพอนามัยของเด็กและผู้สูงอายุ และชีวิตความเป็นอยู่ การรณรงค์ใส่หน้ากากกรองฝุ่น การจัด Safety Zone หรือศูนย์พักพิงสำหรับประชาชน
ส่วนการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้ประชาชนได้รับอากาศที่ดีในตอนนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องการให้ประชาชนให้มีหน้ากากกรองฝุ่นที่มีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพ และราคาที่เข้าถึงได้ พร้อมกันนี้ ต้องให้ความสำคัญต่อการสร้างจิตสำนึกร่วมกัน ให้ประชาชนรับรู้ข่าวสาร และการยกระดับความตื่นตัวให้ประชาชนรู้ถึงพิษภัยของ PM 2.5 การขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันดูแลพื้นที่ป่า ลดการเผา การแก้ไขปัญหานี้ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หากแต่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะชุมชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา และในระยะยาวต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายคืนอากาศบริสุทธิ์ให้ภาคเหนือ ขอให้ท่านช่วยกันคิดและรีบปฏิบัติให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคมนาคม และการดำรงชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการแก้ไขปัญหาสิทธิในที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย