“จุรินทร์” ชี้ กก.กฤษฎีกา เป็นแค่ที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล ไม่ใช่ที่ปรึกษานโยบายเรื่อง “ดิจิทัล วอลเล็ต” คำตอบชัดเจนแล้วว่าออก พ.ร.บ.หรือ พ.ร.ก.กู้เงินได้ แต่มีกฎหมายใดที่ต้องคำนึงถึง ส่วนจะทำหรือไม่ทำ รัฐบาลต้องตัดสินใจเอง หากอ้าง “วิกฤต” ก็ต้องนิยามให้ชัด
วันนี้ (11 ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้ความเห็น เรื่อง ”ดิจิทัล วอลเล็ต” หลังกฤษฎีกาให้คำตอบแก่รัฐบาล ว่า ตนเห็นว่า กฤษฎีกาได้ตอบคำถามรัฐบาลตรงไปตรงมาแล้ว ซึ่งตนมีความเห็น 3 ข้อ คือ กฤษฎีกาเป็นแค่ที่ปรึกษากฎหมายแต่ไม่ใช่ที่ปรึกษาด้านนโยบายของรัฐบาล เพราะฉะนั้นถ้าฟังคำตอบจากเลขาฯ กฤษฎีกา ก็จะเห็นว่า กฤษฎีกาได้ตอบข้อกฎหมายชัดเจนแล้วว่า รัฐบาลสามารถออกกฎหมายกู้เงินมาทำ “ดิจิตอล วอลเล็ต” ได้ ทั้งในรูป พ.ร.ก.และ พ.ร.บ. และตอบว่ามี กม.ฉบับใดและมาตราใดที่ต้องคำนึงถึงบ้าง แต่การที่จะให้กฤษฎีกาตอบว่าควรทำหรือไม่ควรทำ เป็นเรื่องของนโยบาย ซึ่งไม่ใช่หน้าที่กฤษฎีกา แต่เป็นเรื่องของรัฐบาลที่เป็นฝ่ายนโยบายต้องตัดสินใจเอง
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ หากรัฐบาลเห็นว่าการกู้เงิน 5 แสนล้านบาทมาแจก เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน และเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังวิกฤต ตนก็ขอถามอีกครั้งซึ่งเคยถามมาแล้วว่าถ้าวิกฤต จำเป็นและเร่งด่วนจริงอย่างรัฐบาลพูด ทำไมไม่เสนอเป็น พ.ร.ก.เพราะจะมีผลให้กู้เงินได้ทันที แต่ทำไมจึงเลี่ยงไปเสนอในรูป พ.ร.บ.ซึ่งจะทำให้ล่าช้า ยืดเยื้อ เหมือนซื้อเวลาออกไปอีก
ส่วนเรื่องการถกเถียงว่า เศรษฐกิจไทยกำลังวิกฤตหรือไม่ ตนเห็นว่า ข้อแนะนำของ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ส.ว. ที่ให้รัฐบาลเชิญหน่วยงานหรือสถาบันทางเศรษฐกิจที่เชื่อถือได้มาร่วมนิยามคำว่าวิกฤตคืออะไรเสียให้ชัด เป็นเรื่องที่รัฐบาลควรรับฟัง