“อดีตหัวหน้า ศรภ.” ชี้ “ทักษิณ” ยังกล้าท้าทายคนไทย ชอบหาเรื่องใส่ตัวเองอยู่เรื่อยๆ จะเป็นพระเอกที่ตายตอนจบหรือไม่? “นิพิฏฐ์” แนะ เปลี่ยนเกม ฟ้อง “บิ๊ก ขรก.- แพทย์” ต่อศาลอาญาทุจริต แทนทำสงครามที่ไม่มีวันชนะ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (20 ธ.ค. 66) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ระบุว่า
“ทักษิณ จะเป็นพระเอกที่ตายตอนจบหรือไม่
ฟังเรื่องราวของคุณทักษิณ
ในระยะนี้แล้ว มีความรู้สึกวิตกกังวลแทนคุณทักษิณ จริงๆ ครับ
การเติบโตของคุณทักษิณนั้น แน่นอนย่อมสร้างทั้งมิตร และศัตรู
แต่ดูเหมือนศัตรู น่าจะมากกว่าหลายสิบเท่าทีเดียว ส่วน “มิตรเทียม”
ก็มีไม่น้อยเช่นกัน ในไทยก็มีการต่อต้านเครือข่ายทักษิณแบบใหญ่ๆ ขึ้นมาแล้ว 2-3 ครั้ง ซึ่งล้วนแต่ได้รับความสำเร็จเพราะมิตรเทียมของคุณทักษิณอยู่กันเฉยๆ
ส่วนในต่างประเทศ การทำธุรกิจของคุณทักษิณ ก็ไม่ดีนัก ศัตรูก็เพิ่มมากขึ้นมาเรื่อยๆ ถึงขนาดมีกลุ่มก่อการร้ายชาวอาหรับกลุ่มเล็กๆ ออกมาขู่คุณทักษิณ เรื่องความรุนแรงที่ 3 จชต. ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ เคยเห็นหน้าคุณทักษิณ มาก่อนหรือเปล่า แต่ก็ชี้ได้ว่า การอยู่ในต่างประเทศท่ามกลาง รปภ.ต่างชาติ นั้น ไม่น่าจะปลอดภัยตลอดไป
คุณทักษิณ จึงอยากกลับมาอยู่ในไทย ซึ่งน่าจะปลอดภัยมากกว่า
และการทำมาหากินก็สะดวก เพราะกฎหมายไทยนั้นก็ “ดูเหมือน” จะซื้อได้ไม่ยากนัก
ดังนั้น คุณทักษิณ จึงกลับมาอยู่ในไทย ภายใต้การยอมรับผิด ผ่านการประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่ในข้อเท็จจริงคุณทักษิณ ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองเป็นนักโทษ ประพฤติตนเป็นเทวดาอยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ที่ดูเสมือนว่าจะอยู่เหนือกว่า รมต. หรือ นายกฯ อีกด้วย
อนึ่ง เนื้อความในหลักศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง หน้าที่ 1 ซึ่งเทียบขั้นได้กับ ธรรมนูญ Magna Garta ของอังกฤษ ว่า “การตัดสินความแก่ลูกเจ้า ลูกขุน ด้วยความตรงไปตรงมา ไม่เข้าด้วยผู้ผิด” นี่ก็ผ่านมากี่ร้อยปี
กฎหมายไทยยังเข้าข้างคนผิดอยู่อีกหรือ
การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านในระยะนี้ ซึ่งดูจะน้อยมากนั้น แต่ในข้อเท็จจริงมีมากกว่าที่เห็นหลายร้อยเท่าตัว และพวกเขาก็เตรียมตัวกันแล้ว ซึ่งจะทยอยกันออกมาแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการเน้นเรื่องโทษ จาก ม.112 ประกอบกับความแค้นฝังหุ่นของคนอีกหลายกลุ่มที่มีต่อคุณทักษิณ ความอึดอัดของประชาชนที่เชื่อมั่นต่อกฎหมายไทย เรื่องเหล่านี้น่าวิตกนะครับ ขอเตือนว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถ้าคุณทักษิณ ยังกล้าท้าทาย คนไทยอยู่อีก
อย่ามาตายตอนจบเลยครับ คุณทักษิณ หาเรื่องใส่ตัวเองอยู่เรื่อยๆ”
ขณะเดียวกัน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กว่า
“กรณีคุณทักษิณ เปลี่ยนโจทย์ใหม่เถอะ เพราะถ้าโจทย์ผิด คำตอบก็ผิด
ผมเห็นใจที่มีบุคคล และ คณะบุคคล เห็นว่า คุณทักษิณไม่ได้ป่วยถึงขนาดต้องนอนในห้องแอร์บนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ คนเหล่านี้เห็นว่า รัฐได้ทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างน่าอาย
คนเหล่านี้ ออกมาเคลื่อนไหว บางคนก็ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง บางคนก็พยายามจะฟ้องต่อศาลปกครอง
ผมเห็นใจคนที่ออกมาเคลื่อนไหว คุณจะฟ้องต่อศาลฎีกา หรือ ศาลปกครอง เชื่อผมเถอะศาลจะยกฟ้องหมด
เรื่องนี้ เปลี่ยนเกมใหม่เถอะ ปล่อยคุณทักษิณไป ถ้าจะเล่นงาน ให้เล่นงานอธิบดี, ผอ.เรือนจำ และคณะแพทย์ที่รักษาคุณทักษิณ
คุณลองเปลี่ยนโจทย์ใหม่ ฟ้องคนเหล่านี้ต่อศาลอาญาทุจริต ให้ศาลเรียกผลการตรวจคุณทักษิณมาดูทุกวัน ว่า ในแต่ละวันเขารักษากันอย่างไร ผลการรักษาเป็นอย่างไร ผลเลือดเป็นอย่างไร ความดันเป็นอย่างไร หัวใจเป็นอย่างไร ผลการผ่าตัดเป็นอย่างไร แล้วเรียกแพทยสภาที่เป็นกลาง มาวิเคราะห์ผลการป่วย ว่า หนักถึงขนาดต้องนอนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจทุกวันเลยหรือ ถ้านอนเรือนจำสักวัน ต้องเสียชีวิตเลยหรือ
เชื่อผมเถอะ! ไม่มีทางที่คุณจะทำอะไรคุณทักษิณได้หรอก เพราะคุณทักษิณมีคนโอบอุ้มเหมือนไข่ในหิน คุณทำอะไรไม่ได้หรอก
อย่าไปทำสงครามที่คุณไม่มีวันชนะเลย
ทีมงานคุณทักษิณใหญ่โต และ เข้มแข็งเกินกว่าที่คุณจะเข้าไปแตะต้องแล้ว
เดินเกมใหม่ เปลี่ยนโจทย์ใหม่ ลองเปลี่ยนไปที่อธิบดี, ผอ.เรือนจำ และคณะแพทย์เถอะ แต่ทีมคุณต้องใหญ่ หลากหลาย และมีความรู้สู้ทีมคุณทักษิณได้ วันนี้ ไม่ได้สู้กันด้วยการชุมนุม การประท้วง แต่สู้กันด้วยเทคนิค ด้วยกฎหมาย
สู้กันด้วยการให้ประชาชนเห็นว่า ระบบความยุติธรรม ที่คุณต้องการเห็นมันเป็นแบบไหน ถ้าคนไทยรับได้กับการปฏิบัติที่รัฐปฏิบัติกับคุณทักษิณคุณก็กลับบ้านเถอะ บ้านใครบ้านมัน
แต่ถ้าคุณเปลี่ยนเกมเอาคนอื่นมาติดคุกแทนคุณทักษิณ อย่างน้อย เกมนี้คุณอาจไม่ต้องกลับบ้านมือเปล่า
แต่อย่ามาชวนผมทะเลาะกับคุณทักษิณเลย ผมไม่สู้ในสงครามที่ไม่มีวันชนะหรอก
ผมแพ้แล้ว... หากคุณเป็นคนที่อดทนตั้งใจอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ คุณก็แพ้เหมือนผมนี่แหละ เว้นแต่คุณเป็นฝ่ายที่เชื่อว่าคุณทักษิณป่วยหนักจนต้องนอนชั้น 14 รพ.ตำรวจ จริง นอนเรือนจำไม่ได้ จะชักตายเอา อย่างนี้ก็ถือว่า คุณเป็นฝ่ายที่คิดตรงข้ามกับผม คุณคือผู้ชนะ ผมยินดีกับคุณ”