ศาล รธน.เริ่มไต่สวนคดีสถานะ “พิธา” เจ้าตัวหอบหลักฐาน 2 กระเป๋าใหญ่ มั่นใจไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อแล้วตั้งแต่ปี 2550 เผย รอวันนี้มานาน ดีใจได้มีโอกาสพูดต่อศาลเป็นครั้งแรก ด้านด้อมส้มแห่ให้กำลังใจคึก
วันนี้ (20 ธ.ค.) เวลา 09.30 น.ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานบุคคลในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่ จากกรณีเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใดๆ อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และศาลฯได้มีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณา รวมถึงสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.นับแต่วันที่ 19 ก.ค. 66 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
โดยก่อนหน้านี้ นายพิธา ได้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชีระบุพยานเอกสาร พยานบุคคล พยานวัตถุ ฉบับลงวันที่ 2 ต.ค. 66 และบัญชีระบุพยานบุคคลเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่ 18 ต.ค. 66 รวมถึงขอขยายระยะเวลาจัดทำบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นล่วงหน้าโดยศาลฯกำหนดให้มีการจัดส่งภายในวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การไต่สวนพยานในวันนี้แม้ศาลฯจะอนุญาตให้เฉพาะผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม และไม่ได้มีการถ่ายทอดการไต่สวนผ่านโทรทัศน์วงจรปิด แต่ก็พบว่าบรรยากาศที่หน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่เช้า
พบว่า มีข้าราชการที่ทำงานอยู่ภายในอาคารและบริเวณโดยรอบสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงกลุ่มมวลชนแฟนคลับของพรรคก้าวไกลจำนวนหนึ่งทยอยเดินทางมารอมอบดอกไม้ให้กำลังใจนายพิธา ซึ่งมาร่วมการไต่สวนในวันนี้ด้วย
โดยทางกลุ่มมวลชนอกจากเตรียมดอกทานตะวันพร้อมภาพนายพิธาบนแผ่นไวนิลขนาดเท่าตัวจริงมาชูให้กำลังใจแล้ว ยังมีการชูป้ายข้อความเขียนด้วยลายมือ ระบุว่า “เรียกร้องให้ กกต. ถ่ายทอดสดผ่าน itv” และ “itv อยู่ไหน อยากออกไอทีวี” พร้อมทั้งกล่าวว่า อยากให้ศาลสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าถ้าเรามีปัญหาอะไรก็สามารถพึ่งพาศาลได้ เพราะปัจจุบันนั่นไม่มีความเชื่อใจต่อศาลและยังกระทบกับโครงสร้างทั้งหมด จึงอยากให้ศาลเรียกความเชื่อมั่นตรงนี้กลับมา ขณะที่การรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเพียงแผงเหล็กมากั้นเท่านั้น
และเมื่อเวลา 08.40 น. นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.พร้อมคณะในฐานะตัวแทนของ กกต.ได้เดินทางมาร่วมการไต่สวน โดยไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ
ก่อนที่เวลา 09.10 น. นายพิธา และคณะ ซึ่งเดินทางมาพร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบ พร้อมให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมการไต่สวนว่า วันนี้ได้ถือโอกาสสื่อสารข้อเท็จจริง และมั่นใจในข้อเท็จจริง รวมถึงหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งประเด็นรายละเอียดของการชี้แจงขอเก็บไว้ชี้แจงในศาลรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่เปิดเผยในเช้านี้และเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงต่อเรื่องที่มีการกล่าวหา คือ บริษัท ไอทีวี ไม่ได้เป็นสื่อแล้ว ไม่ได้ประกอบกิจการมาตั้งแต่ปี 50 และสื่อมวลชนก็รายงานว่ารายได้ทั้งหมดมาจากดอกเบี้ยในการลงทุน ดังนั้น เมื่อเทียบกับระบบยุติธรรมคำพิพากษาในอดีตก็ยืนยันได้ว่า ไอทีวีไม่ได้เป็นสื่อ ซึ่งตนพร้อมที่จะตอบคำถามอย่างละเอียดทั้งในแง่มุมของตัวบริษัทไอทีวีเอง และอาจจะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของตนก็ได้ทบทวนข้อเท็จจริงแม้ว่ามันจะนานมาแล้วถึง16ปีตั้งแต่คุณพ่อเสียเมื่อปี 49 และไอทีวีหยุดประกอบกิจการเมื่อปี 50 ซึ่งก็มั่นใจว่าจะใช้โอกาสนี้ในการพูดเป็นครั้งแรก และถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ซึ่งก็รอวันนี้มานาน
เมื่อถามถึงกระเป๋าเดินทาง 2 ใบเป็นหลักฐานที่เตรียมมาชี้แจงใช่หรือไม่นายพิธา ว่า ครับ ในชั้นศาลก็จะมีหมายที่ทางศาลเรียก คือมีทั้งผู้ร้อง ผู้ถูกร้องและศาล และวัตถุพยานทั้งหลาย ขณะนี้ตนไม่มีข้อกังวลใดๆ ดีใจที่ได้มีโอกาสพูดและสื่อสารในมุมของเรา แน่นอนว่ากกต.ก็มีหน้าที่ของกกต. ส่วนของเราถ้าเขามีข้อสงสัยตรงไหนก็ยินดีที่จะตอบให้สิ้นข้อสงสัย