xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” เขียนจม.เปิดผนึกถึง “นช.เทวดา” ขอ “เสียสละ”รักษากระบวนการยุติธรรม “คปท.” จี้กรมคุก นำ “ทักษิณ” กลับเรือนจำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายทักษิณ ชินวัตร จากแฟ้ม
จดหมายเปิดผนึก จาก “น.ช.เทพไท” ถึง “น.ช.เทวดา” ขอให้เสียสละ เห็นกับกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ไม่ให้บิดเบี้ยว “คปท.” จี้ ราชทัณฑ์ นำ “ทักษิณ” กลับคุก ซัด ระเบียบขังนอกเรือนจำ ทำลายคำพิพากษาศาล 
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (14 ธ.ค.66) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ระบุว่า

“จดหมายเปิดผนึก จาก น.ช.เทพไท ถึง น.ช.ทักษิณ

เรียน คุณทักษิณ ที่เคารพ

ผมเทพไท ซึ่งเป็นนักโทษเด็ดขาด ที่เคยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเช่นเดียวกัน เพียงแต่ผมเป็นนักโทษธรรมดา ต้องอยู่ในเรือนจำจนครบกำหนดโทษที่ได้รับ และได้รับการพักโทษตามระเบียบ ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งนักโทษทั่วไป สามารถใช้สิทธิ์ได้ทุกคน อย่างเท่าเทียมกัน

แต่ท่านคือ นักโทษเทวดาต้องพักอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยข้ออ้างเรื่องการเจ็บป่วย และไม่มีแนวโน้มว่าจะหายขาด และจะได้กลับมาถูกคุมขังในเรือนจำ เหมือนกับนักโทษทั่วไปเลย

ภาพ นายเทพไท เสนพงศ์ จากแฟ้ม
ผมเองตอนอยู่ในเรือนจำ มีอาการป่วยเช่นเดียวกัน ได้ขออนุญาตเบิกตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครศรีธรรมราช แต่ได้รักษาตัวได้เพียง 5 วัน ผู้บริหารจากกรมราชทัณฑ์กดดันให้ผู้บัญชาการเรือนจำ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำตัวกลับเข้าสู่เรือนจำในทันที

ซึ่งแตกต่างกับตัวท่านมาก ที่ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจอย่างไม่มีกำหนด นับว่าเป็นความเหลื่อมล้ำ ในการปฏิบัติต่อนักโทษทั่วไป การที่ท่านพักอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ จนบัดนี้ยังไม่มีใครรู้ความจริง ว่าท่านป่วยจริงหรือไม่ แต่ท่านคงจะรู้แก่ใจว่า ท่านพักอยู่ที่นั่น ด้วยเหตุผลใด

อยากให้ท่านตระหนักถึง หัวอกคนเป็นนักโทษด้วยกัน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 4 แสนคนทั่วประเทศว่าเขารู้สึกอย่างไร ในฐานะที่ผมกับท่านเป็นนักโทษเหมือนกัน หัวอกอันเดียวกัน อยากให้ท่านเสียสละ เห็นกับกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ไม่ให้บิดเบี้ยว และไม่ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เกิดความลำบากใจ ท่านควรกลับมาถูกคุมขังในเรือนจำ ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์เป็นดีที่สุด ไม่ต้องรอระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ที่ออกมาเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2566 เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับท่านโดยตรงอีกเลย ซึ่งสิทธิ์อันนั้นท่านจะได้รับอย่างแน่นอน

แม้ว่าท่านสามารถจะใช้สิทธิ์ ถูกคุมขังที่บ้านแทนเรือนจำได้ ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ก็ตาม แต่ไม่สง่างามสำหรับลูกผู้ชาย ควรตรงไปตรงมา และรักษากระบวนการยุติธรรมของประเทศมากกว่าประโยชน์ของตัวเอง

ผมหวังว่าจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ คงไปถึงคุณทักษิณ เพื่อจะได้ฉุกคิด ไตร่ตรองกับข้อเสนอแนะของผมบ้าง ในฐานะที่เป็นนักโทษด้วยกัน เป็นนักการเมืองด้วยกันมาก่อน “กลับเรือนจำเถอะครับ”

ความยุติธรรมคือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนา

เทพไท เสนพงศ์

14 ธันวาคม 2566”

ภาพ นายพิชิต ไชยมงคล จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน วันนี้ที่กรมราชทัณฑ์ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอให้รีบนำตัวนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องขังเด็ดขาด กลับเรือนจำ ภายหลังอ้างสิทธิในการเป็นผู้ป่วยแล้วย้ายมารักษาตัวนอกเรือนจำ เมื่อคืนวันที่ 22 ส.ค.2566 และกรมราชทัณฑ์ได้อนุญาตให้มีการรักษาตัวต่อหลังจากที่ผ่านไป 60 วันนั้น โดยอ้างความเห็นของคณะแพทย์ที่อ้างว่ามีการผ่าตัดใหญ่ของนักโทษ

โดย นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. กล่าวว่า จนถึงปัจจุบันผ่านมา กว่า 114 วัน และใกล้จะครบ 120 วัน ส่วนกรมราชทัณฑ์จะอนุญาตให้รักษาตัวนอกเรือนจำต่อไปหรือไม่นั้น ปรากฏข้อเท็จจริงที่ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และเป็นบุตรสาวของนายทักษิณ ได้ออกมาสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า อาการของนายทักษิณ อยู่ระหว่างการพักฟื้นร่างกาย

ทั้งนี้เห็นว่า กระบวนการอ้างระเบียบการรักษาตัวนอกเรือนจำ ที่พานายทักษิณ ออกมานอนที่โรงพยาบาลตำรวจตั้งแต่ต้นได้มาถึงทางเลือกที่จะอ้างอาการเจ็บป่วยไม่ได้อีกต่อไป เนื่องจากการนอนพักฟื้นร่างกายหลังอ้างการผ่าตัดนั้น ระเบียบกรมราชทัณฑ์ให้รีบนำกลับมานอนพักฟื้นได้ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งมีศักยภาพในการรับผู้ต้องขังเด็ดขาดมานอนรักษาตัวในระยะพักฟื้นได้

การจะอนุญาตให้นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลตำรวจต่อหลังจากครบ 120วัน อาจเข้าข่ายการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 การใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการเลือกปฏิบัติอันเป็นคุณเป็นโทษแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะ

ทั้งนี้ภายหลังที่สังคมได้ติดตามกระบวนการอ้างระเบียบพานายทักษิณ ออกมาจากเรือนจำตลอดเวลาที่ผ่านมา กลับพบว่า กรมราชทัณฑ์ได้เร่งรีบประกาศ ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ฉบับใหม่ที่ประกาศให้มีการกำหนดพื้นที่กุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2566 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 นั้น

“คปท.มีความเป็นห่วงว่า กระบวนการยุติธรรมไทย กำลังเร่งออกระเบียบและการใช้ระเบียบ เพื่อเอื้ออภิสิทธิ์แก่นายทักษิณ เป็นการเฉพาะหรือไม่ เนื่องจากตั้งแต่กระบวนการแรกก็อ้างระเบียบในการออกมารักษาตัวนอกเรือนจำเป็นเวลา 114 วัน

นายพิชิต กล่าวอีกว่า ผ่าตัดใหญ่ 2 ครั้ง มาจนถึงปัจจุบันก็มีการประกาศใช้ ระเบียบการกำหนดพื้นที่ต้องขังใหม่แทนเรือนจำ คปท.เห็นว่า นี่เป็นการวางแผนใช้ระเบียบพาตัวผู้ต้องขังเพียง 1 คน ไม่ให้ติดเรือนจำจริงแม้แต่วันเดียว เนื่องจากหลักเกณฑ์ที่ใช้พิจารณา ที่กุมขังใหม่นั้น เป็นที่เข้าใจได้ว่า นช.ทักษิณ ชินวัตร จะได้ใช้สิทธิ์ ระเบียบใหม่เป็นคนแรก ซึ่งก็เท่ากับว่า ผู้ต้องขังเด็ดขาด ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องขังตามหมายศาลคดีทุจริต คอรัปชั่น จะไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว คือ วันแรกก็เบิกตัวมานอน โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อครบ ๑๒๐ วันก็อ้างระเบียบกำหนดให้บ้านจันทร์ส่องหล่า เป็นที่กุมขังอื่นตามระเบียบ และเมื่อเข้าหลักเกณฑ์พักโทษ 22 ก.พ.2567 ก็ได้รับการพักโทษ ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ อีกครั้ง การกระทำโดยร่วมกันอ้างระเบียบเช่นนี้เท่ากับ เป็นการทำลายคำพิพากษาของศาล ด้วยระเบียบของกรมราชทัณฑ์

เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย เห็นว่า การร่วมกันใช้ระเบียบเป็นข้ออ้างสำหรับการพาตัวนักโทษต้องขังเด็ดขาดเพียงคนเดียว เป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมทั้งกระดาน และเป็นการทำลายคำพิพากษาของอำนาจตุลาการ ด้วยระเบียบราชการจากฝ่ายบริหาร เราจึงขอเรียกร้อง ดังนี้

1.กรณีการประกาศใช้ระเบียบ กำหนดสถานที่กุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำนั้น นายทักษิณ เข้าหลักเกณฑ์ในการใช้ระเบียบข้อนี้หรือไม่ อย่างไร โดยทั้งนี้ อยากให้ท่านได้พิจารณาถึงความเหมาะสมทางสังคม ความเป็นธรรมที่ไม่ใช่แค่ระเบียบราชทัณฑ์เข้าประกอบการตัดสินใจ เนื่องจาก นช.ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดคดีทุจริต คอรัปชั่น ที่ยังไม่ได้เข้าสู่เรือนจำแม้แต่วันเดียว การประกาศใช้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ฉบับใหม่ และการบังคับใช้ทันที เท่ากับเป็นการเอื้อประโยชน์แก่คนใดคนหนึ่งเท่ากับเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมและความเป็นธรรมทางสังคม ซึ่งจะกลายเป็นตราบาปที่ลบไม่ออกจากกระบวนการยุติธรรมไทยต่อไป

2.ขอให้เร่งนำตัว ผู้ต้องขังเด็ดขาดทักษิณ ชินวัตร กลับเรือนจำโดยทันที เนื่องจากตามคำสัมภาษณ์ของ น.ส.แพรทองธารนั้น เป็นที่ยืนยันชัดเจนว่า นายทักษิณ อยู่ในระหว่างการพักฟื้นจากการผ่าตัด นั่นย่อมสามารถนำตัวมานอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ทันที เนื่องจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีห้องพิเศษที่สามารถใช้ในการนอนพักฟื้นได้

3.เราขอให้กรมราชทัณฑ์รักษากระบวนการยุติธรรม สร้างความเป็นธรรมให้กฎหมายมากกว่าการให้อภิสิทธิ์ แก่ใครคนใดคนหนึ่ง ตามศักดิ์ศรีข้าราชการฝ่ายยุติธรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น