“เศรษฐา” ควง รมว.อุตสาหกรรม ตรวจดูฝุ่น PM 2.5 แยกราชประสงค์ บอกทุกฝ่ายต้องร่วมมือ ชี้ พื้นที่ กทม. ต้องมีการฉีดน้ำและตรวจเครื่องรถยนต์ให้มากขึ้น เชื่อ สถานการณ์ดีขึ้นหลังทุกคนขานรับนโยบาย ยืนยันไม่นิ่งนอนใจเร่งแก้ปัญหา ขออย่ามองฝุ่นเป็นฤดูกาล ต้องเร่งเปลี่ยนผ่านไปใช้รถ EV มากขึ้น
จากปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนโดยเฉพาะชาวกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ล่าสุด เมื่อเวลา 11.11 น. วันที่ 13 ธ.ค.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ได้เดินลงสังเกตการณ์ปริมาณฝุ่นละอองที่บริเวณแยกราชประสงค์ ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่โรงแรมโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล พร้อมกล่าวว่า วันนี้ฝุ่นละอองเยอะมาก ซึ่งปัญหาดังกล่าวก็ได้กำชับไป กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนักธุรกิจต่างๆ ในเรื่องของการก่อสร้าง ตึกและอาคารไหนที่สามารถฉีดน้ำได้ก็ขอให้ช่วยกันฉีดไป ซึ่ง รมว.อุตสาหกรรม ได้ยืนยันถึงปัญหาการเผาอ้อยได้มีการกำกับและควบคุมขอร้อง ในเรื่องการเผาอ้อยซึ่งเป็นช่วงฤดูไฮซีซันพอดี เชื่อว่า ทุกคนให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว และเชื่อว่า แนวโน้มจะไปในทิศทางที่ดี และเชื่อว่าทุกคนไม่มีใครจะนิ่งรใจในปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว เนื่องจากกระทบกับทุกภาคส่วน ทั้งเรื่องของการท่องเที่ยวเรื่องสุขภาพ
ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะแก้ไขปัญหาควันดำจากรถยนต์ได้อย่างไร เนื่องจากหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร มีสถานการณ์ PM 2.5 เข้าขั้นวิกฤต นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่เราต้องดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องกำกับดูแล โดยเฉพาะการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ เมื่อถามย้ำว่า บทลงโทษในปัจจุบันอาจจะเบาไปทำให้เกรงกลัวต่อกฎหมาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงไม่ใช่ปัญหาเรื่องของควันดำหรือควันขาวอย่างเดียว แต่ยังมี เรื่องของการตรวจสภาพเครื่องยนต์รถยนต์ต่างๆ รวมทั้งการเปลี่ยนถ่ายมาเป็นรถอีวีถือเป็นเรื่องสำคัญ
“วันนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทุกที่ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องของการเผาป่าเผาอ้อยเผาตอซังข้าวโพดต้องดูแลทั้งหมด” นายกฯกล่าว
เมื่อถามว่าแต่เป็นเหมือนเป็นฤดูกาลเมื่อถึงช่วงเวลานี้ก็จะเกิดปัญหาดังกล่าวรัฐบาลจะแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้อย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า ไม่อยากให้ใช้คำว่าเป็นฤดูกาลเพราะถ้าใช้คำดังกล่าวแสดงว่าเรายอมรับปัญหา แต่เป็นเรื่องที่เราต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และอย่ายอมรับมัน เรารู้อยู่แล้วว่าปัญหาจะมาในช่วงนี้ แต่อย่าไปคิดว่าเดี๋ยวมันก็มาอยู่อยู่ไปเดี๋ยวจะหายไปเอง มันไม่ใช่ เราต้องช่วยกันทุกคน รมว. อุตสาหกรรมก็อยู่ด้วยณที่นี้ก็ได้กำกับดูแล มีความเป็นห่วงเป็นใยและไม่เคยอ้างว่าเป็นช่วงฤดูกาลเดี๋ยวก็หมดไปเอง มันไม่ใช่ เรื่องนี้เราต้องดูแลเอาใจใส่เพราะเป็นเรื่องสุขภาพของพี่น้องประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาลดูแลอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่า ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมมีมาตรการอะไรจะดูแลเพื่อลดผลกระทบในช่วงนี้บ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รมว.อุตสาหกรรมทำเต็มทีีอยู่แล้ว มีการกำกับดูแลโดยเฉพาะโรงงานหีบอ้อย และผู้ประกอบการต่างๆ
เมื่อถามถึงพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลที่ไม่ใช่ปัญหาจากอุตสาหกรรมภาคการเกษตร นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องดูแลโดยเฉพาะเรื่องของรถควันดำ ควบคุมดูแลในเรื่องของวิธีการก่อสร้าง ในโครงการต่างๆ รวมทั้งการฉีดน้ำก็ต้องมีให้เยอะมากขึ้น