ลดฮวบ! ส่วนแบ่งรายได้อุทยานฯ ปี 64-65 เข้าพัฒนาท้องถิ่น ตามกฎหมายส่วนแบ่งร้อยละ 5 โอนเข้า เทศบาล-อบต.ในพื้นท่องเที่ยว 1,021 แห่ง จาก 55 จังหวัด เฉพาะปี 64-65 ลดวูบ! เหลือแค่ 49.4 ล้านบาท จากปี 62-63 ได้ส่วนแบ่ง เกือบ 70 ล้าน สวนทางรายได้ พื้นที่ท่องเที่ยวอุทยาน เฉพาะปี 2565 ที่จัดเก็บได้ถึง 715 ล้านบาท พื้นที่สุดฮิต "เกาะพีพี" รายได้ 24 ล้าน ส่วนแบ่ง "อบต.อ่าวนาง" 8 แสน
วันนี้ (11 ธ.ค. 2566) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ เทศบาลตำบล (ทต.) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จำนวน 1,021 แห่ง จาก 55 จังหวัด
ได้รับโอนเงิน "ส่วนแบ่ง" ที่จัดเก็บจากอุทยาน วนอุทยาน ทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการจัดสรรโอนจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)
ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ และตาม พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 จำนวนร้อยละ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2564 และ 2565 ที่จัดโอนไปเมื่อ ก.ย.2566 วงเงินประมาณ 49.4 ล้านบาท
ถือเป็นเงินจัดเก็บรายได้ ที่กรมอุทยานฯ ได้แบ่งเงินค่าบริการและเงินค่าตอบแทนที่เรียกเก็บได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 วงเงิน 17.2 ล้านบาท กับ พ.ศ. 2565 วงเงิน 32.2 ล้านบาท ให้ ทต. และ อบต.ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
ทั้งนี้ ก่อนที่มีการปรับมาใช้ระบบการจำหน่ายบัตรค่าบริการในรูปแบบ E-Ticket ควบคู่กับระบบเดิม
อย่างไรก็ตาม พบว่า รายได้ดังกล่าวที่จัดสรรให้ ทต. และ อบต. ในปี 2564 และ 2565 แตกต่างจากเงินปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ที่ได้รับจัดสรร 2 รอบ วงเงิน 59,457,656.21 บาท และ 5,795,765.60 บาท
หรือในปีงบประมาณ 2562 ที่อปท.กว่า 690 แห่ง ได้รับเงินจัดสรร กว่า 69,060,911.17 บาท
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2565 อุทยานแห่งชาติสุดฮิต ที่ยังเปิดให้บริการ สามารถจัดเก็บรายได้ประมาณ 715 ล้านบาท
ขณะที่ รายงานการจัดเก็บเงินอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1-31 ต.ค.2566 จำนวน 127,252,234.27 บาท
หรือ เพิ่มขึ้น 40,848,906.77 บาท หรือร้อยละ 47.28% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือน ต.ค.2565 ที่จัดเก็บรายได้ 86,403,327.50 บาท (ประมาณการ 86,189,517.50 บาท)
ล่าสุด มท.ได้แจ้งให้ ทต. และ อปท. เร่งรัดรายงานผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม การใช้จ่ายเงินค่าบริการและเงินค่าตอบแทน ของเงินที่เรียกเก็บได้ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ แจ้งส่วนกลางให้รับทราบ
โดยรายงานโครงการดีงกล่าว จะเป็นการเชื่อมโยงได้ว่า โครงการดังกล่าวสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562
“เพื่อนำไปใช้ในการส่งเสริมและสนับสนุนการปฏิบัติงาน หรือ การอนุรักษ์ บำรุงรักษา และฟื้นฟู อุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ”
เป็นการรายงานผลการดำเนินโครงการ/กิจกรรม จะต้องเป็นโครงการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เท่านั้น และให้แยกรายงานตามเงินที่เรียกเก็บได้ในปีแต่ละปีงบประมาณ
สำหรับอุทยานแห่งชาติ ที่จัดเก็บเงินได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี 24,353,232 บาท, อันดับ 2 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 2,219,160.27 บาท
อันดับ 3 อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด 9,577,420 บาท, อันดับ 4 อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 9,359,985. บาท และอันดับ 5 อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา 9,219,030 บาท
อย่างไรก็ตาม พบว่า เงิน "ส่วนแบ่ง" ที่จัดเก็บจากอุทยาน วนอุทยาน "ยอดฮิต" ในปี 2564 และ 2565
เช่น อบต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้รับส่วนแบ่งจำนวน 834,423.55 บาท
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มี อปท. จำนวน 20 แห่ง ในจ.นครนายก ปราจีนบุรี นครราชสีมา ได้รับส่วนแห่งแห่งละ 152.069.26 บาท รวม 3 ล้านบาทเศษ
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ทั้งใน ทต.ดอยแก้ว ทต.บ้านหลวง ทต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง อบต.ช่างเคิ่ง ทต.ท่าผา อ.แม่แจ่ม อบต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ที่ได้รับการจัดสรร แห่งละ 228,965 บาท เป็นต้น.
