xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.สันติภาพ จชต.พร้อมฟังทุกความเห็น จ่อชงตั้ง กมธ.ติดตามคณะเจรจา-แก้ กม.ยุบ กอ.รมน.ต้องศึกษาปัญหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จาตุรนต์” เผย กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ พร้อมรับฟังทุกความเห็นของกระบวนการ จ่อสรุปรอบแรกกลาง ม.ค.ปีหน้า เล็งชงสภาฯตั้งกมธ.ติดตามงาน “คณะเจรจาคุยสันติสุข-ปรับแก้กฎหมาย” ชี้ข้อเสนอยุบ “กอ.รมน.” ต้องมีการศึกษาปัญหา

วันนี้ (6 ธ.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาการสร้างสันติภาพในสามจังหวัดชายแดนใต้ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมสัมมนา “การสร้างความเข้าใจรากเหง้าความขัดแย้ง และกระบวนการสร้างสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานี” ว่า หลังจากที่คณะกรรมาธิการได้ทำงานมาระยะหนึ่งมีประเด็นสำคัญที่กำลังพิจารณาศึกษา และศึกษาต่อไป ถึงบทบาทของรัฐสภาต่อกระบวนการพูดคุยสันติภาพ ที่มองว่าควรจะมีคณะกรรมการของสภาและควรจะมีกฎหมายอะไรที่เอื้อต่อการพูดคุยสันติภาพ และทำให้การพูดคุยสันติภาพสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ โดยปรับการทำงานของฝ่ายบริหาร เพื่อให้เกิดการทำงานที่เป็นเอกภาพ และมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ทำงานเต็มเวลา เพราะคณะกรรมาธิการฯ เห็นปัญหาที่ยังไม่เป็นเอกภาพ ยังไม่มีความชัดเจน ในการจัดระบบการทำงาน และคงต้องศึกษาต่อไปว่าระบบการทำงานที่จะเป็นประโยชน์ควรจะเป็นอย่างไร

รวมทั้งขจัดอุปสรรคต่อการเดินหน้าคุยสันติภาพที่ปราศจากความหวาดกลัว และนำขึ้นสู่ความเป็นสากล เพราะเห็นว่า ยังมีอุปสรรคในเรื่องนี้ และมีความเห็นที่แตกต่างกัน เช่นควรจะมีการลงนามหรือไม่ ควรจะทำให้การพูดคุยเป็นทางการหรือไม่ ทั้งนี้เป็นเรื่องน่ายินดี ที่รัฐบาลตั้งคณะทำงานพูดคุยสันติสุขขึ้นมาแล้ว แต่เป็นข้าราชการทั้งหมด และหัวหน้าคณะเป็นพลเรือน ซึ่งเราคงแลกเปลี่ยนกับคณะนี้ และเห็นว่า ควรจะมีองค์กรหรือคณะกรรมาธิการเฉพาะ ที่จะช่วยส่งเสริมผลักดัน ติดตามการทำงานการพูดคุยสันติภาพเป็นการเฉพาะ เพราะที่ผ่านมาบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติจะจำกัด แม้แต่การรับรู้ความคืบหน้าต่างๆ ก็มีน้อย

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมาธิการชุดนี้จะร่างเป็นข้อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอไปยังรัฐบาลต่อไป คาดว่ากลางเดือนมกราคมปีหน้าน่าจะมีข้อสรุปบางส่วนออกมารวมถึงข้อสรุปในข้อบัญญัติและการแก้ไขกฎหมายที่เอื้อต่อการสร้างสันติภาพโดยรวม ซึ่งมีข้อเสนอเรื่องการออกกฎหมายใหม่ การแก้กฎหมายเดิมที่มีอยู่ รวมทั้งการทบทวนการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ ทั้งกฎอัยการศึก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ. ความมั่นคง โดยจะมีการศึกษาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการสร้างสันติภาพ และเป็นประโยชน์ต่อการทำให้เกิดความสงบ การอยู่ร่วมกันของประชาชนในพื้นที่ อย่างมีสันติสุข

นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังต้องศึกษาถึงการปรับงบประมาณ ให้สอดคล้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี และสอดคล้องกับแนวทางทางการเมือง เพราะที่ผ่านมาจะได้ยินตัวเลขการใช้งบประมาณไปในหลายปีเป็นจำนวนสูงถึง 5 แสนล้านบาท รวมทั้งการจัดงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวกับปัญหาความมั่นคง ในการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี และแสวงหาทางออกทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องการความมีส่วนร่วมของประชาชน และที่สำคัญงบประมาณที่เกี่ยวกับการพัฒนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ควรจะสอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่ เพื่อเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยการทำงานของคณะกรรมาธิการคาดหวังการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย และคาดหวังว่าเราจะสามารถทำข้อเสนอ ที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง และการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้

เมื่อถามถึงกรอบการทำงานของคณะกรรมาธิการนั้น ประธาน กมธ. ศึกษาการสร้างสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ กล่าวว่า สภามอบหมายให้ทำงาน 90 วัน แต่จากที่ฟังผู้เชี่ยวชาญ มีแนวโน้มว่าอาจจะต้องขยายเวลา และจากนี้จะทำ 2 ส่วนคือตั้งหัวข้อในการศึกษาพิจารณาที่ชัดเจน และจะมีการรับฟังลงพื้นที่ โดยต้นเดือนหน้าจะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2-3 ครั้ง และให้อนุกรรมาธิการไปรับฟัง และคาดว่า จะทยอยมีข้อสรุป ที่เป็นข้อเสนอในประเด็นใหญ่ๆ ได้ ซึ่งระหว่างนี้อยู่ระหว่างการเตรียมทีมงานร่างข้อเสนอ

นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า การตั้งคณะพูดคุยขึ้น เป็นส่วนหนึ่งที่คงจะศึกษาดูว่ามีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร โดยจะเชิญผู้มีประสบการณ์จากการพูดคุยทุกชุดมาให้ความเห็นในสัปดาห์หน้า และอีกส่วนคือการจัดการบริหารความรับผิดชอบการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้รับผลกระทบจากคำสั่ง คสช.ส่วนหนึ่ง และหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบบัญชาการโดยนายกรัฐมนตรี แต่ไม่มีระบบในการประสานเชื่อมโยงองค์กรเหล่านี้เข้าด้วยกัน ทำให้แต่ละหน่วยงานหรือกฎหมายคนละฉบับ ศอ.บต.ก็ฉบับหนึ่ง กอ.รมน.ก็ฉบับหนึ่งสภาความมั่นคงก็อีกฉบับหนึ่ง ขณะที่กองทัพก็มีกฎอัยการศึก และยังเป็นหัวหน้า กอ.รมน.ในภาคใต้ด้วย จึงเห็นปัญหาการลักลั่นไม่มีการประสานงาน

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลเสนอยุบ กอ.รมน. นายจาตุรนต์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการก็ได้ยินเรื่องนี้มาแล้ว และมาเห็นปัญหาความลักลั่น ความไม่เป็นเอกภาพหรือไม่มีระบบประสานงานก็จะเป็นประเด็นหนึ่งที่จะศึกษาถึงระบบประสานงานที่ดีองค์กรเหมาะสมที่จะรับผิดชอบ กฎหมายที่จะใช้ควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าข้อเสนอเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจ และใช้นโยบายในการแก้ไขปัญหา

เมื่อถามถึงข้อเสนอพื้นที่ปกครองพิเศษ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ประเด็นเหล่านี้ การกระจายอำนาจรูปแบบการบริหารการปกครองพื้นที่ที่เหมาะสม กฎหมายที่เอื้อต่อกระบวนการสร้างสันติภาพ และการพูดคุย จะต้องมีการศึกษาหาข้อมูลแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหาข้อสรุปของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งเป็นเรื่องของทั้งประเทศอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการกระจายอำนาจในปัจจุบัน ที่ดูเหมือนจะถอยหลัง ซึ่งรูปแบบการปกครองพิเศษของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะเป็นอย่างไร แต่ต้องแตกต่างจากกรุงเทพฯ หรือพัทยา ที่จะต้องหาสมดุลที่เกิดการกระจายอำนาจที่ 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ควรจะได้รับ เช่นเดียวกันกับหลายจังหวัดที่ควรจะมีการกระจายอำนาจมากขึ้นอยู่แล้ว ซึ่งการกระจายอำนาจพิเศษเป็นเรื่องที่จะต้องมีการศึกษา โดยที่สังคมควรจะต้องรับรู้ปัญหาความขัดแย้ง กระบวนการสร้างสันติภาพจึงต้องมีการดำเนินการในหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องของการมีกฎหมายที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เรื่องกระบวนการยุติธรรมในระยะประเด็นทางที่เหมาะสมกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้


กำลังโหลดความคิดเห็น