“ศรีสุวรรณ” ยื่นร้อง ป.ป.ช.สอบเอาผิด นายกฯ ซื้อผ้ามัดหมี่ 6,000 บาท ฝาก “อุ๊งอิ๊ง” ชี้ ผิดกฎหมายห้ามให้หรือรับของขวัญ มูลค่าเกิน 3,000 บาท มีความผิดทั้งสองฝ่าย
วันนี้ (6 ธ.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ไต่สวนและมีความเห็นกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ซื้อผ้ามัดหมี่จำนวน 6,000 บาท ไปมอบให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เป็นการฝ่าฝืน ม.128 แห่ง พรป.ป.ป.ช. 2561 และฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า นายเศรษฐา ได้อุดหนุนผ้ามัดหมี่สีชมพู ทอชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” จากบูธขายสินค้าโอทอปของกลุ่มแม่บ้านโนนสัง จ.หนองบัวลำภู วันประชุม ครม.สัญจร 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา และได้มอบให้ “อุ๊งอิ๊ง” ต่อหน้าประชาชนและสื่อมวลชน ระหว่างร่วมลงพื้นที่เยี่ยมชมการทำเกษตรผสมผสาน ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง ซึ่งนายกฯได้ควักเงินส่วนตัวออกมาซื้อในราคา 6,000 บาท ท่ามกลางสายตาการรับรู้ รับทราบของประชาชนและสื่อมวลชนที่ยืนดูอยู่รายล้อมนายกรัฐมนตรี
“หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาสมทบกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่ร่วมลงพื้นเยี่ยมชมการทำเกษตรผสมผสานแบบพื้นบ้าน ของนางหนูปาน พรหมโคตร ที่บ้านนาหว้า ได้ ต.ยางหล่อ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู โดยเมื่อนายกรัฐมนตรีมาถึงก็ได้มอบผ้ามัดหมี่ทอมือที่ปักชื่ออุ๊งอิ๊ง ที่ซื้อมามอบให้เป็นของขวัญ ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้รับเอาไว้แล้วด้วย ทั้งนี้ การให้-รับของขวัญหรือของกำนัลเป็นผ้ามัดหมี่ที่มีราคาถึง 6,000 บาท ถือว่าเป็นทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท อาจเข้าข่ายมีความผิดตาม ม.128 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ประกอบข้อ 5 และข้อ 6(1) ของประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ 2563 และ ข้อ 5 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการให้หรือรับของขวัญของเจ้าหน้าที่รัฐ 2565 ซึ่งเป็นข้อห้ามที่ทั้งสองควรที่จะต้องปฏิบัติเป็นต้นแบบที่ดี”
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีมีนโยบายไปยังกระทรวง ทบวง กรม เกี่ยวกับ No Gift Policy ชัดเจน แต่ทว่าบุคคลทั้งสองทั้งผู้ให้และผู้รับกลับกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเสียเอง และยังอาจถือว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงอีกด้วยในหลายๆ ข้อ จึงขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนเพื่อเอาผิดบุคคลทั้งสองต่อไป