xs
xsm
sm
md
lg

อนุฯ การเมือง ระดมความเห็นฝ่ายวิชาการส่วนใหญ่ให้เลือกตั้ง ส.ส.ร.ที่ไม่ซับซ้อน หนุนใช้โมเดลปี 40

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อนุฯ การเมือง ระดมความเห็นฝ่ายวิชาการ เสนอโมเดลเลือก ส.ส.ร. ส่วนใหญ่เห็นควรให้มาจากการเลือกตั้ง ที่ไม่ซับซ้อน หนุนใช้โมเดล ส.ส.ร.40 หนุนบทบาทกลุ่มคนเฉพาะ ไม่เลือกมาแต่เป็นไม้ประดับ

วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาการจัดทำข้อเสนอระบบเลือกตั้งและแนวทางการทำงานของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง ใน กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภา โดยอนุ กมธ. ที่มี นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน ได้เชิญนักวิชาการที่เกี่ยวข้องและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังความเห็น

ขณะที่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา กรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ และ อดีต ส.ส.ร.40 กล่าวโดยยกตัวอย่างและสนับสนุนการใช้รูปแบบของที่มาของ ส.ส.ร.40 ที่มี 99 คน และมีกรอบเวลายกร่างรัฐธรรมนูญ 240 วัน ดังนั้น การกำหนดจำนวนดังกล่าวเหมาะสมไม่เสียงบประมาณมาก และเป็นประชาธิปไตยที่ดี ทั้งนี้สำหรับที่มาของส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งนั้นไม่ควรเป็นระบบซับซ้อนหรือพิศดาร เพราะคนไปใช้สิทธิจะสับสน

นายพงศ์เทพ กล่าวด้วยว่า ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตนมองว่า ต้องมีคณะทำงาน 2 ชุดสำคัญ คือ กรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมาธิการพิจาณาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อปรับแก้ไขตามการรับฟังความเห็นของประชาชน เมื่อ ส.ส.ร. ยกร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ควรเสนอให้รัฐสภาให้ความเห็น โดยรัฐสภาไม่มีสิทธิบอกว่ารับหรือไม่ แต่ตนมองว่ากรณีที่รัฐสภาให้ความเห็น และชี้ว่ามีข้อบกพร่องผิดพลาดใดจะเป็นประโยชน์ ส่วนการปรับหรือไม่ขึ้นอยู่ ส.ส.ร. จากนั้นจึงส่งไปออกเสียงประชามติ ส่วนกรอบเวลาทำรัฐธรรมมนูญใหม่เห็นว่า 240 วันเหมาะสม

“ด้านผู้เชี่ยวชาญหรือกรรมการ ควรเป็น ส.ส.ร. ถือว่าเป็นประโยชน์ เพราะจะเป็นพวกเดียวกัน ไม่รู้สึกว่าเป็นคนละพวก และได้รับฟังความเห็นที่แลกเปลี่ยนกัน เกิดความเข้าใจในเนื้อหา ผู้มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญ หากจะเป็นประโยชน์ต้องเป็น ส.ส.ร.ด้วย แต่การส่งให้ ประชาชนเลือกจะปวดหัว หากให้สมัครได้ มีคนสมัคร 2,000 ชื่อคนเลือกที่เป็นประชาชนจะเลือกไม่ไหวแน่นอน หากเสนอผู้เชี่ยวชาญ อาจมีรูปแบบมาจากตัวแทนฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล” นายพงศ์เทพ กล่าว

ขณะที่ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล นักวิชาการคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวสนับสนุนให้ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้ง แต่ต้องจัดระบบเลือกตั้งให้เหมาะสม เช่น ใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง และคำนึงถึงสัดส่วนของประชากรในแต่ละพื้นที่เพื่อให้เป็นตัวแทนของประชาชนร่วมเป็น ส.ส.ร. ขณะเดียวกัน การออกแบบรัฐธรรมนูญไม่ควรมีเนื้อหาที่ยาวเกินไป

ทางด้าน นายนิกร จำนง กรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติฯ กล่าวสนับสนุนรูปแบบ ส.ส.ร. โดยโมเดล ปี 2540 ให้มีจังหวัดละ 1 คน รวม 77 คน ส่วนกรรมการยกร่างรัฐะรรมนูญต้องมีความสัมพันธ์และเชื่อมโยงกัน รวมมถึงส.ส.ร.ต้องมีหน้าที่รับฟังความเห็นประชาชน เพื่อรวบรวมความเห็นนำไปจัดทำรัฐธรรมนูญโดยใช้โครงสร้างของรัฐธรรมนูญเดิม ส่วนของผู้เชี่ยวชาญนั้น ตนมองว่าจำเป็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการแสดงความเห็นของตัวแทนภาคประชาชน และตัวแทนคนรุ่นใหม่ ร่วมให้ความเห็นในภาพรวมคือ สนับสนุนที่มาของส.ส.ร.จากการเลือกตั้งของประชาชน แต่กระบวนการเลือกของ ส.ส.ร.นั้นไม่ควรซับซ้อน และควรทำอย่างตรงไปตรงมา และมีความจำเป็นที่ต้องมีนักวิชาการร่วมเป็น ส.ส.ร.เพื่อทำงานทางเทคนิค และเสนอความเห็นในการจัดทำรัฐธรรมนูญ นอกจากนั้นยังสนับสนุนให้คนชายขอบ กลุ่มคนเฉพาะ เช่นคนพิการ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นผู้เชี่ยวชาญต้องมีบทบาทในการผลักดันวาระการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ใช่เลือกให้เข้ามาเป็นไม้ประดับเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น