หัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้า ขออยู่ตรงกลาง ไม่ยืนข้างรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ขอทำงานด้านตรวจสอบ-ช่วยประชาชน มอง “ปูอัด” เป็น ส.ส.รุ่นใหม่ วอน “นักร้องเรียน” ควรให้โอกาสทำงาน
นายวัชรพล บุษมงคล หัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้า กล่าวถึงการขับเคลื่อนงานในสภา หลังจากที่รับ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.กทม. ที่ถูกพรรคก้าวไกลขับออกเป็นสมาชิกพรรค เข้าสังกัด ทำให้พรรคไทยก้าวหน้า มีที่นั่ง ส.ส.ในสภา ว่า ในช่วงแรกพรรคไทยก้าวหน้ายังไม่ประกาศตัวว่าเป็นฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล และมองสถานะของพรรค ว่า ควรเป็นกลาง ส่วนกรณีที่ได้ นายไชยามพวาน ทำหน้าที่ ส.ส.ในสภา จากที่ได้คุยกันเบื้องต้น พบการทำงานที่สอดคล้องกัน และยึดประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญ ดังนั้น พรรคไทยก้าวหน้าในสภา ขณะนี้ถือเป็นพรรคเล็ก มี ส.ส. 1 คน ดังนั้น มองว่า จะอยู่ในฝ่ายของการทำงานที่ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์
“เราอยู่ในฝ่ายตรวจสอบรัฐบาลและพร้อมเสนอแนะ ความเดือดร้อนต่างๆ ของประชาชน ในพื้นที่ สาขาอาชีพต่างๆ ความไม่เป็นธรรมม การทุจริต ประพฤติมิชอบ เพราะการสะท้อนปัญหาสู่สภา จะเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า และขอเป็นพรรคที่เป็นกลางๆ” นายวัชรพล กล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่าพรรคให้อิสระและเอกสิทธิ์การทำงานกับนายไชยามพวานเต็มที่ หัวหน้าพรรคไทยก้าวหน้า กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่ง แต่ต้องอยู่ในกรอบระเบียบข้อบังคบของพรรค และจากการพูดคุยมองว่าทัศนคติการทำงานสอดคล้องกันอยู่ แต่อาจต้องปรับเข้าหากันอยู่บ้างและนายไชยามพวานถือเป็น สส.รุ่นใหม่ ที่ตั้งใจทำงานช่วยเหลือชาวบ้าน
เมื่อถามว่า ตำแหน่งผู้ช่วยหรือผู้ปฏิบัติงาน ส.ส. จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนหรือไม่ นายวัชรพล กล่าวว่า ส่วนหนึ่งใช้ชุดเดิม แต่ของพรรคไทยก้าวหน้าจะคอยสนับสนุนเป็นพี่เลี้ยง เป็นที่ปรึกษา เพราะพรรคมีบุคลากรที่มีประสบการณ์การทำงาน ดังนั้น จะคอยสนับสนุนด้านข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้เกิดการทำงานาเชิงรุกและสร้างสรรค์ในสภา เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน
เมื่อถามถึงกรณีที่ขณะนี้มีข้อเรียกร้องและผู้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบจริยธรรมนายไชยามพวาน ต่อองค์กรอิสระประเด็นคุกคามทางเพศ นายวัชรพล กล่าวว่า “เป็นสิทธิของนักร้อง เพราะเขามักร้องทุกเรื่อง แต่ผมอยากให้มมองว่าควรให้โอกาสเขาทำงาน กรณีที่พรรคก้าวไกลขับเขาออกเพราะรักษาภาพลักษณ์พรรค หลังถูกกระแสโหมหนัก ผมมองว่า ปูอัดคือคนรุ่นใหม่ คิดเร็วและตั้งใจทำงาน หากไปเป็นผู้แทน ประชาชนจะได้รับประโยชน์มากกว่า ทำงานดีกว่าหลายๆ คนด้วยซ้ำ เพราะลงพื้นที่เกือบทุกวัน คนที่คิดจะร้องเรียนเขาควรให้โอกาสในการทำงาน แต่หากมีพฤติกรรมแบบเดิมซ้ำอีก ผมไม่ขัดข้องที่จะยื่นร้องให้ตรวจสอบ”