xs
xsm
sm
md
lg

สัมพันธ์ไม่ธรรมดา"หลวงพ่อพัฒน์"กับ"บิ๊กต่อ"ผบ.ตร. เมตตารับเป็นลูกชายคนโต! ** “สมศักดิ์” มาแล้ว จากโคล้านตัว สู่ “วัวชน” ดันเป็นซอฟต์เพาเวอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

** สัมพันธ์ไม่ธรรมดา"หลวงพ่อพัฒน์"กับ"บิ๊กต่อ"ผบ.ตร. เมตตารับเป็นลูกชายคนโต!

พระราชมงคลวัชราจารย์ หรือ "หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม” พระเกจิชื่อดัง อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน จ.นครสวรรค์ ได้ละสังขาร หลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธ ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เมื่อเวลา 01.35 น. ของวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ยังความเศร้าโศกอาลัยแก่ศิษยานุศิษย์ และสาธุชนที่รักและศรัทธาหลวงพ่ออย่างมาก เนื่องเพราะทราบกันว่า หลวงพ่อพัฒน์ ท่านอายุ 102 ปี 78 พรรษา นอกจากได้ชื่อว่าเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีอาคมเข้มคลัง สร้างสาธารณกุศลมานักต่อนัก แล้วยังมีเมตตาสูง ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็ต้องบอกว่า เป็น "พ่อ" ที่มีแต่ให้ จนเรียกขานกันว่า "เทพเจ้าแห่งปากน้ำโพ"

ด้วยความเมตตาของ “หลวงพ่อพัฒน์” ว่ากันว่า ทำให้มีบุคคลหลากหลายตั้งแต่สามัญชนไปจนถึงคนดังในสังคม อาทิ เซียนพระชื่อดัง "ป๋อง สุพรรณ"... "บอย ท่าพระจันทร์"... "น้าแอ๊ด คาราบาว" ยืนยง โอภากุล ฝากตัวเป็นลูกศิษย์

ว่ากันว่า หลังจากนำสรีระร่างหลวงพ่อ กลับวัดห้วยด้วน อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ในวันรุ่งขึ้น ก่อนเปิดให้ศิษยานุศิษย์-ศรัทธาประชาชน ร่วมพิธีสรงน้ำ ในวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา บรรดาศิษยานุศิษย์ คลื่นสาธุชน ก็หลั่งไหลไปวัดหลวงพ่อกันเนืองแน่น

รวมไปถึง "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ขึ้นไปสรงน้ำพระราชทาน และกราบลาสรีระหลวงพ่อ ฟังว่า ด้วยความอาลัยรักในพิธีติดต่อถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ร่ำไห้ในตอนท้ายๆ ในความเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อพัฒน์ สำหรับ “บิ๊กต่อ” ถือว่า ไม่ธรรมดา

ว่ากันว่า ในหมู่ลูกศิษย์ “บิ๊กต่อ” ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในศิษย์รัก ยังได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อ ยกเป็นลูกบุญธรรม "ลูกชายคนโต" ความสัมพันธ์ฉันพ่อลูก ระหว่าง “หลวงพ่อพัฒน์” กับ ผบ.ตร.คนนี้ เริ่มต้นจาก "คดีเงินวัดห้วยด้วน" เมื่อ 3-4ปีก่อน สมัยที่ “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์” อยู่ในตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ไปที่วัด และเข้ากราบนมัสการหลวงพ่อ เพราะได้ชื่อว่าเป็น "ตำรวจสายธรรมะ" บิ๊กต่อ จึงขอกราบถวายตัวเป็นลูกศิษย์ และขอเป็นลูกบุญธรรม ของ “หลวงพ่อพัฒน์” ขณะที่หลวงพ่อก็เมตตารับเป็นลูกบุญธรรมแล้วยังตั้งให้เป็น "ลูกชายคนโต"

จากความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดา ระหว่างที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ ได้เมตตากับลูกชายคนโต ด้วยการรับกิจนิมนต์มาที่ สตช. อยู่หลายครั้ง

นั่นจึงเป็นที่มาของภาพที่สาธุชนทั้งหลายได้เห็น “บิ๊กต่อ” ได้นำข้าราชการตำรวจ เดินทางไปร่วมสรงน้ำสรีระร่าง “หลวงพ่อพัฒน์” โดยได้เข้าไปกราบเท้า และหัวไหล่ เพื่อกราบลาเป็นครั้งสุดท้าย ในฐานะลูกศิษย์ก้นกุฎิ ที่หลวงพ่อพัฒน์ ยกให้เป็นลูกบุญธรรมลูกชายคนโตของท่านด้วย

** “สมศักดิ์” มาแล้ว จากโคล้านตัว สู่ “วัวชน” ดันเป็นซอฟต์เพาเวอร์

รัฐมนตรีสไตล์ลูกทุ่ง ที่เข้าถึงวิถีชาวบ้าน คนในแวดวงกีฬาพื้นบ้านไทยๆ อย่าง กัดปลา ตีไก่ ชนวัว รู้กันดีว่า “ทั่นรองสมศักดิ์” สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง นิยมชมชอบ กับการได้คลุกคลี และอนุรักษ์กีฬาไทยเหล่านี้

ขณะเดียวกันก็หาทางสนับสนุน พัฒนา สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างงาน สร้างเงิน ให้กับผู้ที่อยู่ในวงการเหล่านี้ ได้มีอาชีพ มีช่องทางสร้างอนาคต อย่างเช่น “ไก่ชน” หากมีเชื้อสายดี เป็นลูกของพ่อพันธุ์ ที่เคยชนะคู่ต่อสู้ ชั้นเชิงดี ตีเจ็บ กินเดิมพันสูง หากผสมพันธุ์กับแม่ไก่ ที่ให้ลูกดี อดทน มีประวัติได้เข้าสนามชนไก่และชนะ ... แค่ลูกไก่ ที่มีอายุเพียงแค่ 1-2 เดือนก็มีราคาหลักพันแล้ว ... ยิ่งเป็นไก่หนุ่ม ที่ได้เข้าชนในสนามชนไก่ โชว์ฟอร์มสด ชนะคู่ต่อสู้ แบบน็อกเร็ว ไม่เจ็บตัว หน้าตาไม่มีริ้วรอย ขนหัวไม่หลุดสักเส้น ยังหล่อเหมือนเดิม ก็จะมีราคาสูงขึ้นไปอีก

ยุคนี้ ไก่ชน ที่เก่งๆ ราคาค่าตัว พุ่งเป็นหลักแสน หลักล้าน มีให้เห็นกันบ่อยๆ ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่ชน และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ก็ไปได้สวย เช่นเดียวกับการเลี้ยงโค ที่แต่เดิมส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ โคขุน โคเนื้อ และโคนม ซึ่ง “ท่านรองนายกฯสมศักดิ์” เคยผลักดันโครงการโคล้านตัว ทั้งที่ดำเนินการเอง และให้ “อนุชา นาคาศัย” อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปดำเนินการ

ในส่วนของ “รองสมศักดิ์” ในช่วงที่ผ่านมา ก็ได้ผลักดันผ่าน สำนักงานกองทุนหมู่บ้าน และกรมปศุสัตว์ สนับสนุนการเลี้ยงโค ให้กับเกษตรกร เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” ที่เตรียมหาตลาด โดยมีการเจรจาการส่งออกโคให้กับ ซาอุดีอาระเบีย และ จีน

ตอนนี้ก็ได้ทำโครงการเลี้ยงวัวนำร่อง ที่ จ.สุโขทัย ให้กับสมาชิกประมาณ 1,000 ครอบครัว ครอบครัวละ 2 ตัว ปัจจุบันได้ลูกวัวออกมาแล้ว เกือบ 1,900 ตัว ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ และได้มีการเสนอโครงการ โคเงินล้าน เพื่อนำร่องต่อ ให้เกษตรกรเลี้ยงวัวพันธุ์ ทั้ง โกเบ บราห์มัน และ ทาจิมะ ซึ่งเป็นโคเกรดพรีเมี่ยม เมื่อโตเต็มที่จะมีราคาสูงถึง 200,000 บาท

ล่าสุด “รองสมศักดิ์” ไอเดียบรรเจิด บอกว่าจะสนับสนุน ผลักดันให้มีการเลี้ยงโคเพื่อการกีฬา หรือเลี้ยง “วัวชน” ที่คนพื้นถิ่นภาคใต้คุ้นเคยกันดี ให้เป็น “ซอฟต์เพาเวอร์” ตามโครงการที่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ กำลังเฟ้นหาเอกลักษณ์ไทยมาติดป้าย ติดตรา “ซอฟต์เพาเวอร์”

“รองสมศักดิ์” บอกว่า การเลี้ยงโคเพื่อการกีฬา เป็นการส่งเสริมให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวมีรายได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันที่ จ.สุโขทัย มีสนามชนโคที่ใหญ่ที่สุด

สำหรับตนเองแล้ว เห็นว่าเป็นการส่งเสริมเกษตรกร ให้มีรายได้ ทั้งผู้ที่เลี้ยงวัว ร้านอาหารต่างๆ รวมทั้งกิจกรรมที่เป็นซอฟต์เพาเวอร์ เพราะคนที่เลี้ยงโคมีเป็นล้านครอบครัว ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน อีกทั้งขณะนี้ได้มีการขออนุญาต ให้กีฬาชนวัว เป็นกีฬาที่ถูกกฎหมายแล้ว แม้จะมีการพนันแทรกซึมอยู่บ้าง เราก็จะสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน และเยาวชน ทั้งรูปแบบการทำกฎหมาย และถ้าภูมิคุ้มกันเราดีแล้ว ทุกอย่างสามารถดำเนินการได้

... หลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจ มองว่า กีฬาชนวัว เป็นการทรมานสัตว์ หรือส่งเสริมให้เล่นการพนัน ซึ่งตรงนี้ผมสามารถอธิบายได้ ถ้าใครสงสัยให้มาถามผม เพราะเตรียมใจไว้แล้วว่า จะต้องมีคนต่อต้านแน่นอน ซึ่งไม่เป็นไร ยอมรับว่าผู้เข้าใจยังมีน้อย วันนี้ เป็นแนวคิดของผม ที่จะสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร เพราะเมื่อก่อน แค่สนับสนุนการเลี้ยงวัว คนก็มองว่าเป็นคนใจบาป “ขุนไว้ฆ่า”

อย่างไรก็ตาม วันนี้ตนคิดเพียงว่า ทำอย่างไรให้คนมีรายได้ และถูกกฎหมาย ไม่ใช่เป็นเรื่องการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เพียงแต่เรานำสัตว์มาเป็นการแข่งขันกีฬา ซึ่งเป็นวัฒนธรรมพื้นถิ่นซึ่งมีอยู่แล้ว เพียงแต่เรามาจัดระบบ ระเบียบให้เข้ากับยุคสมัย

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า “วัวชน” จะได้รับการโปรโมตให้เป็นที่ยอมรับในฐานะ “ซอฟต์ เพาเวอร์” เพื่อเป็นช่องทาง สร้างงาน สร้างเงิน สร้างอาชีพ ดึงดูดให้ชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวชม หรือไม่ ซึ่ง “รองสมศักดิ์” ยืดอกประกาศว่าใครมีข้อสงสัย หรือเห็นว่าเป็นเรื่องทรมานสัตว์ เป็นเรื่องการพนัน ก็มาถกเหตุผลกันได้ ยินดีแลกเปลี่ยนเต็มที่


กำลังโหลดความคิดเห็น