“วิโรจน์” ป้อง ส.ส.เมืองจันท์ โดนแฉผู้ช่วยจัดหาเด็กเอนท์ ชี้ พฤติกรรมสอดแนมแอบถ่าย สังคมเจริญแล้วไม่ควรมี

“วิโรจน์” ป้อง ส.ส.จันทบุรี ปมถูกแฉแต่งตั้งสามีเป็นผู้ช่วย-ทีมงานรับจัดหาเด็กเอนท์ ยันเจ้าตัวชี้แจงได้ แนะสังคมอย่าฟังความข้างเดียว ลั่นเหมือน “สตอกเกอร์” คอยสอดแนมแอบถ่าย สังคมที่เจริญแล้วคงไม่มีแบบนี้

วันที่ 23 พ.ย. 2566 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เพจวันนี้พรรคก้าวไกลโกหกอะไร ออกมาแฉเรื่องการแต่งตั้งสามีของนางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส.จันทบุรี แล้วปรากฏภาพถ่ายคู่กับเด็กเอนท์ รวมถึงทีมงานทำอาชีพรับจัดหาเด็กเอนท์ ว่า เรื่องนี้เจ้าตัวเขาก็ชี้แจงได้

ผู้สื่อข่าวจึงไล่เรียงว่า ยังมีการโต้ตอบกันต่อเรื่องการแต่งตั้งสามีเป็นผู้ช่วย แล้วปรากฏภาพไปถ่ายรูปคู่กับเด็กเอนท์ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ความสำคัญอยู่ที่ว่าตั้งใครแล้วคนนั้นเขาทำงานจริงหรือไม่ อยู่ในบทบาทจริงหรือไม่ ซึ่งไปถามคนในพื้นที่ได้ว่าเขาทำงานจริง หรือตั้งไว้เฉยๆ

“ผมก็ยืนยันว่า ผมก็เคยเจอผู้ช่วยคนนั้นในพื้นที่อยู่ตลอดเวลา และเคยมีภาพถ่ายในการทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ภาพถ่ายในการสังสรรค์นะ เป็นภาพถ่ายในการทำงานร่วมกัน ดังนั้น ผมคิดว่า การโจมตีกันคุณก็มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ แต่เนื้อหาสาระก็ฟังจากที่ ส.ส.จันทบุรี พูด ผมว่าก็ต้องฟังทั้ง 2 ฝ่ายด้วย” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ ระบุว่า สิ่งที่น่ากังวลคือพฤติกรรมที่เป็นสตอกเกอร์ (Stalker) คอยสอดแนม ติดตาม แอบถ่าย ละเมิดความเป็นส่วนตัว และเอาภาพถ่ายบางส่วนมาเขียนข่าวในทางร้าย กล่าวหาในทางร้ายเพียงภาพภาพเดียว โดยที่ไม่ฟังบริบท ตนยืนยันว่า ตอนนี้การกล่าวหามีการพ่วงไปถึงประชาชนปกติแล้ว และเพจที่ไม่ได้มีตัวตน ทำอย่างนั้นเพื่ออะไร
“ตรวจสอบ ส.ส. ที่เป็นบุคคลสาธารณะ ก็ทำเลย กรณีต้องสงสัยใครว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดแต่งตั้งมาทำงานจริงหรือไม่ ก็ทำเลย แต่ประชาชนคนธรรมดา ที่มาเป็นจิตอาสาทำงานในพื้นที่ เขาเป็นประชาชน คุณถึงขั้นไปสอดแนมติดตาม สตอล์ก และไปล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของเขาอย่างนี้ ผมต้องถามสังคมกลับเราจะสนับสนุนสังคมแบบนี้จริงหรือ แล้วกฎหมาย PDPA จะมีไว้ทำไม” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ ยังตั้งข้อสงสัยว่า ถ้าไปถ่ายภาพหลุด 1 ภาพ แล้วเขียนข่าวกันเอาเอง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรไม่รู้ ไม่ฟังคำอธิบายของอีกฝ่ายหนึ่ง และบางครั้งบางเรื่องเป็นเรื่องส่วนตัว เขาไม่ได้เป็นบุคคลสาธารณะ ไม่ได้มีพื้นที่สื่อ เป็นเพียงแค่ประชาชนที่ไปช่วยงาน คิดว่ายุติธรรมหรือไม่

“หลังๆ ผมให้คำแนะนำอย่างนี้ครับว่าถ้าคุณไม่ได้มีตัวตน การชี้แจงก็ชี้แจงผ่านสาธารณะ และผมวิงวอนว่าถ้าใครก็ตามที่สงสัย พรรคก้าวไกลก็เปิดเผยอยู่แล้ว ก็สามารถที่จะร้องเรียนที่พรรค อย่างที่มีสมาชิกพรรคมา 10 ท่าน เราก็พร้อมตรวจสอบ เราก็ให้เกียรติทุกคนอยู่แล้ว ผมว่าถ้าเพจแบบนี้มีเยอะแยะในประเทศ แต่ถ้าเป็นประเทศที่มีสังคมที่เจริญแล้วพัฒนาแล้วตนว่าไม่ใช่” นายวิโรจน์ กล่าว