โฆษกเผย รัฐบาลพยายามต่อยอดผลหารือ นายกฯ กับภาคเอกชนชั้นนำของโลกช่วงประชุมเอเปก เร่งเดินหน้าสานต่อให้เกิดการตกลงทางธุรกิจ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นำประโยชน์สู่ประเทศโดยเร็ว
นายสัตวแพทย์ ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการพบหารือระหว่าง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับผู้บริหารบริษัทภาคเอกชนชั้นนำของสหรัฐฯ หลายบริษัท ระหว่างการเยือนนครซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ประจำปี 2566 ของนายกรัฐมนตรีนั้น โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า บริษัท Microsoft ประเทศไทย วางแผนที่ใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในภูมิภาคเอเชีย โดยจะจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้าน AI และพัฒนาข้อมูลระบบคลาวด์ภูมิภาค ซึ่งรัฐบาลไทย และบริษัท Microsoft ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศด้วยดิจิทัล AI โดยบริษัท Microsoft เห็นว่า ไทยมีศักยภาพที่จะเป็น 1 ในศูนย์กลาง AI ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งรัฐบาลไทยเองก็พร้อมที่จะร่วมมือและสนับสนุนแหล่งพลังงานหมุนเวียน เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของบริษัท ที่ภายในปี พ.ศ. 2568 ศูนย์ข้อมูล (Data Centers) ทั้งหมดของ Microsoft ทั่วโลกจะใช้พลังงานหมุนเวียน
ในขณะที่ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน EV เทสล่า (Tesla) มีแผนก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่แห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน และคาดว่า จะสามารถตัดสินใจได้ภายในไตรมาสแรกปี 2567 เนื่องจากก่อนหน้านี้ Tesla ประกาศขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย มีการจดทะเบียนตั้งบริษัท เทสล่า (ประเทศไทย) และหากมอง อุตสาหกรรม EV ของประเทศไทยถือได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน
“นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า การลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพื่อเสริมขีดความสามารถในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า สร้างห่วงโซ่อุปทาน EV ส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมและอุตสาหกรรม จะช่วยเพิ่มผลผลิตทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า การหารือกับบริษัทชั้นนำ นำเสนอศักยภาพ และนโยบายของประเทศ จะทำให้เกิดความร่วมมือ ฟื้นฟู เสริมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของไทย” นายสัตวแพทย์ ชัย กล่าว