xs
xsm
sm
md
lg

"วิโรจน์" ฟาด "บิ๊กทิน-บิ๊กดุง" แจงปมเรือดำน้ำคนละมุม ซัด รมว.กห.โกหกคำโตอ้าง ทร.อยากได้เรือฟริเกต จี้ "เศรษฐา" เคลียร์ด่วน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"วิโรจน์" ขยี้ "บิ๊กดุง-บิ๊กทิน" แจงปมเรือดำน้ำคนละมุม อัด รมว.กห.อ่าน รธน.ไม่เเตก หมดสภาพไร้ภาวะผู้นำ โกหกคำโตว่าทร.อยากเเลกเป็นฟริเกต แต่เมื่อวาน ทร.แจงชัดแล้วไม่ต้องการ จี้นายกฯ เคลียร์ด่วน

วันนี้(21 พ.ย.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ.การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร.แถลงเมื่อวานว่าจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนที่ยังมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ไม่เป็นไปตามสัญญา ตอนหนึ่ง โดยยืนยันว่า ทร.มีหน้าจัดซื้อเรือดำน้ำ ตามนโนยาบรัฐบาล ไม่มีหน้าที่ที่จะมาบอกว่าเปลี่ยนเป็นเรืออื่น ว่า เป็นไปตามที่ กมธ.การทหาร ทราบมาก่อนแล้ว เคยเชิญผู้แทน ทร.กับ กระทรวงกลาโหม(กห.) ชี้แจงปมเปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกต ได้ยินมาตลอด ว่า ทร.ไม่ประสงค์เปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต แต่นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ยืนยันตลอดว่า ทร.ต้องการ เมื่อวานชัดแล้ว ทร.ไม่ต้องการ

นายวิโรจน์กล่าวว่า รมว.กลาโหม กับ ผบ.ทร.ต้องเคลียร์กัน แต่ตนคิดว่า นายสุทิน ทำการบ้านมาน้อยเกินไป กมธ.เคยทำหนังสือถึงนายสุทินว่า มันเป็นสัญญาระหว่างประเทศ กรณีนี้ ต่อให้นายสุทินจะอ้างว่า ไม่ใช่สัญญาระหว่างประเทศ รัฐธรรมนูญไม่สนใจชื่อเรียก แต่แคร์ว่าผลของมันคืออะไร และกมธ.การทหารยืนยันว่า มันเป็นสัญญาระหว่างประเทศตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญ ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา เข้าใจว่า ผบ.ทร.ก็ตระหนักและเราเคยทำหนังสือถึงท่านด้วย

นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ที่ ผบ.ทร.นำเรื่องไปหารือกับอัยการสูงสุด คลี่คลายปัญหาให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ น่าผิดหวังนิดหนึ่ง ที่นายสุทิน ในฐานะ รมว.กลาโหม แม้ว่าจะไม่ได้ตอบว่า จะไม่นำเข้ารัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ แต่ในเนื้อหานายสุทิน เคยบอกว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาและกระทรวงการต่างประเทศ เคยให้ความเห็นไว้ว่า ในลักษณะแบบนี้ ไม่ใช่สัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งตรงนี้เป็นการอ่านรัฐธรรมนูญไม่แตก ไม่ได้เอากรณีเขาพระวิหาร และสัญญาขายข้าวจีทูจี มาเทียบเทียงเลย ตนสนับสนุนแนวคิด ผบ.ทร.ที่รอบคอบ

นายวิโรจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ต้องเข้ามาเป็นตัวกลางหารือระหว่าง รมว.กลาโหม และผบ.ทร. มองไม่ตรงกัน ให้ข่าวก็ไม่ตรงกัน ตนย้ำว่า เรือฟริเกตมีศักยภาพสูง แต่เป็นเรือคนละคลาสกับเรือรบหลวงภูมิพล ซึ่งเป็นเรือฟริเกตที่เรามีอยู่ กองเรือนั้นต้องอยู่ในคลาสเดียวกัน ขีปนาวุธบนเรือต้องประเภทเดียวกัน อะไหล่บำรุงรักษา การควบคุมเรือต้องคล้ายคลึงกัน จึงบริหารจัดการกองเรือได้ง่าย หากเป็นคนละคลาสจะถูกตั้งคำถามอย่างใหญ่หลวงว่า จะสำรองอะไหล่อย่างไร เป็นต้น ที่สำคัญที่สุด คือมันเป็นการตัดสินใจที่ขัดกับสมุดปกขาว ที่ทางกองทัพเรือเขียนเอาไว้เองด้วย ขัดกับยุทธศาสตร์ที่ตัวเองได้วางไว้ นายกฯจึงต้องมาเคลียร์ เพราะมันสะท้อนถึงสภาพที่ไร้การนำของรมว.กลาโหม สัญญาเรือดำน้ำจะสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2566 การตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไร กับความเห็นที่ไม่ตรงกันจะต้องจบภายในเวลาดังกล่าว
 
เมื่อถามว่า เวลากระชั้นชิด แต่ทร. กับกลาโหม ยังเห็นไม่ตรงกันอยู่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นการยืนยันแล้ว สิ่งที่นายสุทินพูดมาตลอดว่า ทร.ต้องการเรือฟริเกตนั้นไม่เป็นความจริง แต่เป็นการมโนของนายสุทินเอง หากทร.ต้องการแลกเป็นเรือฟริเกตจริง เราคงไม่ได้ยิน ผบ.ทร.ให้สัมภาษณ์อย่างนั้น ท่านไม่ให้ความเห็นว่าจะแลกเรือฟริเกตเลย ในเมื่อสภาฯอนุมัติภาษีประชาชนให้ซื้อเรือดำน้ำ สมมติว่า ถ้าจะเปลี่ยนเป็นแบบอื่นจริงๆทาง รมว.กลาโหม กับผบ.ทร.ไม่มีอำนาจที่จะทึกทักเปลี่ยนกันเอง ต้องดู พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณด้วย การเปลี่ยนวัตถุประสงค์แบบผิดฝาผิดตัว จากใต้น้ำมาอยู่บนน้ำ คงเปลี่ยนเองไม่ได้ ตนชื่นชม ผบ.ทร.ที่ดำเนินการเรื่องนี้อย่างรัดกุม รอบคอบ ด้วยทำหนังสือไปหารือกับอัยการสูงสุด


กำลังโหลดความคิดเห็น